นายซาย คนพลัดถิ่น

 นายซาย คนพลัดถิ่น

   ไม่ว่าบ้านใครที่ท่อน้ำทิ้งตัน มีน้ำใช้แล้วเอ่อขึ้นมาตรงบ่อพักน้ำ ในบ้านตลอดเวลา ก็คงจะกลัดกลุ้มเช่นเดียวกับผู้เขียนเป็นแน่  บ้านนี้อยู่มาหลายปีแล้วยังไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

   ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะท่อน้ำตัน ผู้เขียนกับหลานชายช่วยกัน เอาไม้ยาวทะแยงแหย๋ลงไปในท่อที่คิดว่า ตัน แต่ไม่เป็นผลเพราะน้ำไม่มีทีท่าว่าจะยุบลงแต่อย่างใด
 
  พอเช้าขึ้นผู้เขียนจะรีบมาดูที่บ่อพักน้ำเป็นอย่างแรกว่าน้ำยุบลงบ้างหรือยัง มีร่องรอยว่าน้ำยุบลงเล็กน้อยแต่เมื่อมีการใช้น้ำเช่นอาบน้ำ ซักผ้า น้ำก็จะเอ่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดูท่าไม่ได้การเสียแล้ว !
 
  แล้วจะหาช่างที่ไหนมาดูให้เพราะช่างเดี๋ยวนี้หายากโดยเฉพาะงานเล็กๆแบบนี้ เขาไม่มาหรอก เสียเวลา สู้เขาไปรับงานใหญ่ที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำดีกว่า
 
 ผู้เขียนถามเพื่อนบ้านติดกัน ว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องท่อน้ำหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าที่บ้านเธอปกติ เมื่อเห็นสีหน้ากลัดกลุ้มของผู้เขียน เธอบอกว่ามีคนหนึ่งเป็นคนงานรับจ้างทั่วไป เธอเคยจ้างมาตัดหญ้าที่บ้าน เดี๋ยวเธอจะเรียกมาให้ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะทำได้หรือเปล่า ผู้เขียนบอกว่าไม่เป็นไรให้เขามาดูก่อนแล้วกัน
 
  วันรุ่งขึ้นประมาณเที่ยง ผู้เขียนได้ยินเสียงกระดิ่งรถจักรยานที่รั้วหน้าบ้าน พอออกไปดูก็พบชายร่างเล็ก เสื้อผ้าเนื้อตัวค่อนข้างมอมแมมด้วยเศษดินและปูน อายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี ใส่หมวกแก๊ปเก่าๆ รองเท้าฟองน้ำเก่าข้างละสี ยืนรออยู่
 
 “คูป้าจะให้โผทำอาลายคัก” แกพูดแบบนี้จริงๆ ก็เลยเดาเอาว่าแกต้องไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน ผู้เขียนเล่าเรื่องราวให้ฟัง ดูแกก็เข้าใจที่เราพูดทั้งหมด เสียอย่างเดียวเราไม่ค่อยเข้าใจที่แกพูดเสียเป็นส่วนใหญ่ แกมีอุปกรณ์ในการทำงานติดมาด้วยอยู่ในตะกร้าหน้ารถจักรยานเก่า ๆ (ดูมันเก่าไปเสียทุกอย่าง)  คือ ตลับเมตร ค้อน ชะแลง
 
 “โผขอเข้าไปดูโท่น้ำในบ้านโหน่ยคัก” พอจะเปิดประตูรั้วเข้าไป ทันใดนั้นก็มีเสียงฮึ่มแฮ่ของหมาสองตัวดังขึ้น ทำเอาชายร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว ผู้เขียนบอกว่าขอผูกหมาก่อนเพราะหมาบ้านนี้ดุมาก ไม่อยากเสียเงินค่าหมออีก  พูดขู่ไปอย่างนั้นแหละเพราะเคยได้ยินมาว่าต้องระวังพวกต่างด้าวนี้ให้ดี
  
 “เดี๋ยว ขอถามก่อน เธอชื่ออะไร จะได้เรียกได้ถูก” ผู้เขียนถาม
“โผชื่อ ซาย  ชื่อไทยว่า โสชาย คัก” 
“สมชาย ใช่ไหม ใครตั้งให้ล่ะ เพราะเสียด้วย”
“นาย ตั้งให้คัก”  ตอนหลังจึงได้รู้ว่านายซายแกเป็นชาวพม่า มารับจ้างทำงานก่อสร้างบ้านจัดสรรแถวใกล้บ้านผู้เขียน นายที่พูดถึงคงจะเป็นคนที่พาแกมาทำงานนั่นแหละ

  “แล้วเธอมีบัตรอนุญาตหรือเปล่า” ผู้เขียนถามไปอย่างนั้นเอง เพราะที่จริงก็มีความรู้เรื่องพวกนี้ไม่มากนัก
  “มีคัก มีคัก  นายทำให้คัก” นายซายรีบตอบ

่อระบายน้ำใหญ่ที่ผ่านหน้าบ้าน

      ายซายเปิดฝาบ่อพักน้ำที่มีน้ำเอ่อล้นออกมา แกลองเอาไม้ทะแยงลงไปเหมือนที่ผู้เขียนทำมาแล้วไม่เป็นผล  ผู้เขียนเห็นแกวัดความลึกของท่อน้ำในบ้านแล้วออกมาวัดระดับท่อที่ส่งน้ำไปลงท่อใหญ่นอกบ้าน   แกบอกว่าต้องขุดดูท่อส่งน้ำไปนอกบ้านว่าเป็นอย่างไร ปรากฏว่าท่อใหญ่นอกบ้านมีระดับน้ำสูงมาก สูงเท่ากับท่อส่งน้ำในบ้านเลยทีเดียว
 
 “คูป้า น้ำไหลไปไม่ล่าย เพราะโท่ส่งน้ำไปลงโท่ใหญ่ของเท่สะบาง (เทศบาล) บ้านคูป้าอยู่ต่ำมาก พอน้ำมากน้ำข้างนอกก็จะสูงเท่ากับน้ำในโท่ส่งน้ำ ทำให้น้ำในบ้านไหลออกไปไม่ล่าย”  จริงๆแกอธิบายมากกว่านี้ แต่ขอบอกว่าฟังไม่ค่อยออก เลยจับใจความได้เท่านี้
 
“แล้วจะแก้ไขอย่างไรดีล่ะ นายซาย” ผู้เขียนถาม
“เอาไว้พรุ่งนี้โผจะมาดูให้เพราะวันนี้หมดเวลาพักแล้ว โผต้องกลับไปทำงานก่อน โผไปก่อนนะ คูป้า”
“พรุ่งนี้อย่าลืมมาให้ได้นะ นายซาย  ป้าให้ค่าเสียเวลาเธอร้อยนึงก่อนก็แล้วกัน”
“ขอกคุงคัก คูป้า” นายซายยกมือไหว้แล้วรับเงินไป ดูท่าพอใจไม่ใช่น้อย
 
  วันต่อมาผู้เขียนรอนายซายจนเกินบ่ายโมง คิดว่าแกคงทำไม่ได้ จึงไม่มาเสียเลย  กำลังคิดอยู่ว่าจะหาใครมาดูให้ ก็ได้ยินนายซายมาเรียกอยู่หน้าบ้าน แกมาพร้อมกับปูนที่ผสมแล้วหนึ่งถุงและท่อเอสลอนขนาดใหญ่สีฟ้ายาวประมาณครึ่งเมตร
 
   พอมาถึงแกก็ลงมือขุดดูท่อส่งน้ำจากในบ้าน แกทุบด้านข้างท่อใหญ่ส่วนที่สูงกว่าระดับน้ำให้พอเป็นช่อง แล้วเจาะท่อส่งน้ำจากในบ้าน ทำให้น้ำทิ้งที่เอ่ออยู่ในท่อไหลออกมามากมายเข้าไปยังช่องที่แกทำไว้ด้านข้างท่อใหญ่จนหมด
 
   หลังจากนั้นแกก็ใช้ท่อเอสลอนที่เตรียมมาทำเป็นท่อส่งน้ำออกนอกบ้านแทนท่อเดิม โดยปลายด้านหนึ่งของท่อใหม่นี้จะยื่นเข้าไปในท่อใหญ่  ท่อใหม่จะสูงกว่าระดับน้ำในท่อใหญ่พอสมควร ทำให้น้ำในบ้านไหลลงท่อใหญ่ได้โดยสะดวก
 
   แกใช้ปูนที่เตรียมมา ยาตามรอยต่อทุกจุด แล้วปิดร่องรอยท่อใหม่ด้วยดินที่แกขุดไว้ในตอนแรก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความโล่งใจของผู้เขียนเป็นอย่างยิ่ง

 “เลียบโล้ยแล้วคัก คูป้า ถ้าน้ำในโท่เท่สะบางไม่สูงกว่านี้ น้ำในบ้านคูป้าก็ไหลล่ายคัก” นายซายอธิบาย
“ขอบใจมากนะ ป้าให้เธออีกห้าร้อย  แล้วนี่เป็นเสื้อยืดของหลานชายป้า ป้าเลือกมาให้เธอห้าหกตัว เอาไว้ใส่ทำงานล่าย เอ๊ย ได้”  ทำไปทำมาจะพูดไทยไม่ชัดเหมือนนายซายเสียแล้ว
 
  “ขอกคุงคัก คูป้า  ถ้ามีอาลาย คูป้าเรียกโผล่ายนะคัก นี่เป็นเบอร์โทรสักมือถือขอโผ คัก” แกส่งกระดาษชิ้นเล็กที่มีเบอร์โทรศัพท์เขียนไว้ให้ผู้เขียน (คงมีคนเขียนให้) แล้วถีบจักรยานคันเก่ากลับไป ทิ้งให้ผู้เขียนยืนงงงวยกับเบอร์โทรศัพท์ที่แกให้ไว้เพราะคิดไม่ถึงว่าแกจะมีมือถือใช้
 
  ผู้เขียนได้แต่คิดในใจว่า  เธอช่างทันสมัยจริงๆนะ นายซาย  เอ๊ยไม่ใช่  นายสมชาย...

 

อ.ปลาทอง ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้206
เมื่อวานนี้460
สัปดาห์นี้2056
เดือนนี้11303
ทั้งหมด1341187

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online