เมื่อคนโพธารามไปเจ็ดเสมียนครั้งแรก
นายหิรัญ สุวรรณมัจฉา อดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดเจ็ดเสมียน
“..เช้าวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๔๗๘ ฉันรีบแต่งตัวถือร่มด้วย วันนี้ฝนพรำตั้งแต่เช้าตรู่ เสื้อชั้นนอกคอตั้งเพิ่งจะตัดใหม่ ยังไม่เคยใส่เลย ต้องห่อกระดาษหนีบรักแร้ เพราะกลัวฝนจะเปียก เรียบร้อยแล้วก็กางร่มเดินมาตามถนนรถไฟ (จากโพธาราม) มุ่งไปทางไต้ ตำบลแห่งหน ของเจ็ดเสมียนจะอยู่ที่ใดเกิดมาก็ไม่เคยไป
รู้แต่ว่าเดินตามถนนรถไฟไปอีกสถานีหนึ่งก็จะถึง ฉันอยู่โพธารามไม่เคยไปเที่ยวต่างถิ่นเลย จึงไม่ค่อยกว้างขวาง ครั้งนี้เพราะความจำเป็นก็เดินสุ่มไป ตามทางมีพวกทำงานกุลี (คนงานของการรถไฟ) กำลังทำงานอยู่ ใจค่อยดีขึ้นหน่อยที่ยังพบคน เออ ! น่าอนาถ คนที่ไม่เคยพบโลกภายนอก ก็คล้ายกับกบอยู่ในสระ มักสำคัญว่าสระของตัวใหญ่ยิ่งกว่าทุกอย่าง ……… “
“...............ฉันมาถึงโรงกุลี มองเห็นหลังคาขาวๆ ข้างหน้า สำคัญเอาว่าเป็นหลังคาโรงเรียนแน่แล้ว ก็แก้ห่อเสื้อนอกซึ่งร้อนเพราะถูกรักแร้หนีบขึ้นมาสวม ดึงกลีบที่ยับครั้งสองครั้ง แล้วก็รีบเดินจวนใกล้ถึงโรงเรียน เห็นโรงเรียนหลังใหญ่สร้างจวนเสร็จ ตระหง่านอยู่เคียงวัด หลังเล็กหน่อยอยู่หน้าหลังใหญ่ นั้นคือที่หมายของฉัน นอกโรงเรียนหลังเล็กออกมาเป็นบ่อรถไฟ แต่ตื้นและมีข้าวอันงอกงามขึ้นเสมอบ่า
ทั้งหน้าโรงเรียนและหลังโรงเรียนมีกอไผ่ ป่าไผ่ ไม้พันธุ์ต่างๆ ขึ้นอยู่เกะกะ ร.ร.เขาหันหน้าไปทางทิศไต้ มีมุขยื่นออกมา หน้ามุขมีกอเข็มใหญ่ และถนนปูนผ่านไปในวัด ฉันเดินเข้าเขตโรงเรียน หุบร่ม สำรวมกิริยาเป็นอันดีแล้วก็เหยียบกระไดขึ้นโรงเรียน ขณะนี้เด็กนักเรียนกำลังเข้าเรียนกัน พอฉันไปถึงมีครูคนหนึ่งออกมาต้อนรับ อายุกลางคน รูปร่างล่ำสันหน้าตาดุดัน ผมหยิกหยักศก ลักษณะว่องไว ทันคน
บอกให้ฉันเข้าไปนั่งในห้องพักครู แล้วถามฉันว่า มีหนังสือส่งตัวมาจากอำเภอหรือไม่ ฉันก็ควักหนังสือที่ทางอำเภอโพธารามออกให้มาให้ดู เขาดูแล้วก็พูดว่า “ ดีแล้วมาอยู่ที่นี่จะได้ช่วยเหลือกัน “ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก จับตามองฉันนิ่งเฉยอยู่ ภายหลังฉันจึงได้รู้ว่า นี่คือครูใหญ่ชื่อ นาย กวย วงศ์ยะรา (โกวิท วงศ์ยะรา)
สักครู่มีครูอีกคนหนึ่ง ภายหลังฉันรู้ว่าชื่อ นายแฉล้ม คงมั่น (พ่อของนายปัญญา คงมั่น (ไอ้แอ๊ด) เพื่อนของผมที่เคย วิ่งเล่นที่เจ็ดเสมียนด้วยกัน) เข้ามาในห้องนั่งลง แล้วก็มองๆ ฉันอีก เอ ! ฉันคงมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดในตัวบกพร่องเป็นแน่ อยู่บ้านเคยนุ่งกางเกงดำจีน ใส่เสื้อโปโลหรือเชิ๊ตธรรมดา กางเกงฟอร์มขาสั้นเคยนุ่งเมื่อเวลาไปโรงเรียน
ส่วนเสื้อนอกนั้นเกิดมาก็เคยสวมใส่ สักครั้งเดียวหรือสองครั้งเท่านั้น มาใส่ในคราวนี้ก็ออกโรงทีเดียว คงเปิ่นเอามากๆ ทีเดียว มิฉะนั้นเขาคงมิมอง หรือเขาจะดูหมิ่นเราว่าเป็นเด็ก มีภูมิรู้น้อย หรือเขาจะสงสารเรา บ้า ! ยุ่งกันใหญ่ ฉันปล่อยให้เขานึกปลงอนิจจังสังเวชในตัวฉันจนเขาเบื่อไปเอง สุดท้ายครูใหญ่พูดขึ้นมาว่า “ วันนี้เป็นวันโกน และครูก็ยังไม่ได้เตรียมอะไรมา กลับก่อนก็ได้ มะรืนนี้จึงค่อยมาใหม่ “
สุริยะ สิงหา นำเรื่องเก่าๆมาเล่า ๑ เมษายน ๒๕๕๖