ราษฎร์รำลึก 06 ตอน 3 (บันทึกช่วยจำ)

  ดอกกุหลาบที่เป็นสื่อแทนความเคารพรัก ความสำนึกในพระคุณที่ศิษย์มอบให้กับคุณครูทุกท่าน

 

   คำนำจากผู้จัดทำ  ผมได้รับบทความ "บันทึกช่วยจำ" ของคุณธีรศักดิ์ ลิขิตวัฒนเศรษฐ ซึ่งเป็นประธานในการจัดงานพบปะสังสรรค์ " ราษฎร์รำลึก 06 " เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ซึ่งบันทึกนี้ คุณธีรศักดิ์ได้ทำเป็นหนังสือแจกกันไปทั่วๆแล้ว ดังนั้นผมจึงจะนำข้อความ "บันทึกช่วยจำ " มาลงในนี้เพียงบางตอนเท่านั้น ถ้าท่านอยากทราบข้อความให้ละเอียดกว่านี้ กรุณาเปิดหนังสือที่คุณธีรศักดิ์แจก อ่านดูจะได้ข้อความที่ละเอียดครบถ้วนนะครับ (นายแก้ว ผู้จัดทำ)

   บันทึกช่วยจำ เขียนโดย ธีรศักดิ์ ลิขิตวัฒนเศรษฐ

านพบปะสังสรรค์ “ราษฎร์รำลึก 06”
ณ หอประชุมอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี
เสาร์ 18 กุมภาพันธ์ 2555
----------------------------------------------------------------------

   เสาร์ 18 ก.พ.2555

   และแล้ววันพบปะสังสรรค์ “ราษฎร์รำลึก06”ของพวกเราที่รอคอยก็มาถึง ผมเชื่อว่าหลายคนคงตื่นเต้นและตื่นแต่เช้า หลายคนเดินทางเข้าไปในอำเภอโพธารามตั้งแต่วันก่อนแล้ว ผมกับคมสิทธิ์และสุจินดาออกเดินทางจากบ้านที่ราชบุรี แวะหาปราณจิตที่บ้านเลือกซึ่งเธอนัดให้ไปรับเงินสนับสนุนงาน เรามอบของที่ระลึกและหนังสือให้เธอ 1 ชุด  จากนั้นไปกินข้าวเช้าฟรีที่บ้านสมพงษ์(กู้)ตามคำเชิญ เพื่อนให้กินฟรีทุกทีไม่ยอมเก็บตังค์สักที ซ้ำยังแถมกับข้าวถุงใส่กลับบ้านให้อีกเป็นประจำ ถึงบ้านกู้ร้านเลิฟก่อน 8โมงครึ่ง มีพวกเรานั่งกินอยู่แล้วหลายคน วันนี้กู้ตั้งใจเลี้ยงเพื่อนเอาฤกษ์เอาชัยมื้อนึงก่อน แกให้ผู้ช่วยตักกับข้าวมาตั้งหลายถ้วย ฝีมือไม่ต้องพูดถึง เป็นร้านข้าวแกงมีชื่อในโพธารามอยู่แล้ว คุณต้องมายืนรอจึงจะได้กิน

   พอพวกเรากินเสร็จ(ไม่ต้องจ่ายตังค์) ก็เดินทางเข้าไปที่วัดโพธาราม พบพวกเราหลายคนที่รอถวายสังฆทานอยู่ก่อนแล้ว มีเพ็ญศรี, พรทิพย์ ,วันทนีย์ พร้อมลูกสาว , สุภัตราพร้อมสามี, สมนึก, สุณีย์ ,วชิรา, สุรางค์, จินดา, ไพบูลย์พร้อมภรรยา, ผู้พันสมศักดิ์, คมสิทธิ์, สุจินดา, แม่บ้านของยงยุทธและแม่บ้านของวิทยา(แกะ)  และผม คนถ่ายรูป  เอ! ตกหล่นใครไปบ้างไหมเอ่ย...!

 วันนี้หลวงพ่อประทีป (พระครูโพธิวราทร) เจ้าอาวาสวัดโพธารามและเจ้าคณะตำบลโพธาราม เขต 2 พร้อมพระลูกวัดอีก 4 รูป เมตตาลงสวด โดยมีคมสิทธิ์ทำหน้าที่อาราธนาศีลและกล่าวคำถวายสังฆทาน พวกเราช่วยกันถวายสังฆทานและปัจจัยแด่พระคุณเจ้า แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่คุณครูและเพื่อนศิษย์เก่าที่ล่วงลับไปแล้ว ผมถวายหนังสือที่ระลึก “ราษฎร์รำลึก06”ซึ่งมีบทกลอนของหลวงพ่อที่ท่านเคยแต่งไว้ให้ในคราวสังสรรค์ปี 2521ด้วย ให้หลวงพ่อ 1 เล่ม พร้อมหนังสือหลากรสจดแจกปี 2 อีก 1 เล่ม  ออกจากศาลามาพบกับพระธานี ซื่อสัตย์ สนทนากับท่านอยู่ครู่หนึ่ง ท่านได้มอบเงินจำนวน 1,000 บาทสนับสนุนงานด้วย กราบขอบพระคุณท่าน มา ณ โอกาสนี้

 

  จากนั้นเราก็แคลื่อนย้ายไปที่หอประชุมอำเภอโพธารามซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน  ณ ที่นั้น พบพวกเราหลายคนไปรอเข้างาน ยืนสนทนากันเป็นกลุ่ม 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง  เราในฐานะกรรมการต้องรีบกุลีกุจอจัดข้าวของให้เข้าที่ตามที่ได้กำหนดไว้

 

 

  พวกเราเริ่มทยอยกันมา พอพบกันต่างคนก็ต่างคุยกัน ช่วยคณะกรรมการต้อนรับคนโน้นคนนี้โดยเฉพาะเพื่อนที่ห่างกันไปนาน   คุณครูที่มาก่อนเพื่อนและก่อนพวกเราเสียอีกก็คือคุณครูนพดล วัฒนา โดยลูกชายของท่านช่วยขับรถไปให้ และก็ท่านอีกนั่นแหละที่เป็นคนแรกโดดขึ้นเวทีร้องเพลงเป็นปฐมฤกษ์  ขอบคุณคุณครูมาก น่ารักที่สุดครับผม  ผมเองก็ยุ่งอยู่กับการจัดข้าวของและเก็บภาพบางส่วน โชคดีที่สักพักหนึ่ง คุณเบญจวรรณ รุ่งสว่าง ลูกสาวของสมนึก รุ่งสว่างก็ไปช่วยถ่ายรูปให้และเป็นตัวยืนหลักปักแน่นถ่ายภาพให้พวกเราตลอดงาน ขอบคุณหลายเด้อ ต้องขอโทษคุณครูและเพื่อน ๆ ที่ผมมีโอกาสไปทักทายพูดคุยน้อยไปหน่อยและอาจไม่ทั่วถึง ขออภัยจริง ๆ ครับผม

 

 

 

   พวกเราไปกันมากขึ้น จับกลุ่มคุยกันกลุ่มเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ยังไม่ยอมไปนั่งโต๊ะที่จัดไว้ให้ คุณครูเริ่มทยอยกันมามากขึ้น  หลายคนไปลงทะเบียน แก้ไขข้อมูลของตัวเองให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน และสนับสนุนเงินจัดงาน 500 บาทบ้าง  1,000 บาทบ้าง  2,000 บาทก็มี บางท่านไปกับลูก สามี ภรรยา  เพื่อน  ก็สนับสนุนเงินเพิ่ม (ทำให้เราจัดงานไม่ขาดมากนัก ครับผม) ถือเป็นน้ำใจที่น่ารักมาก  จริง ๆ ถ้าขาดไปบ้างก็ไม่เป็นไรถ้ามีเหลือก็ดี จะได้เก็บไว้เป็นกองทุนของรุ่นเรา  งานนี้คมสิทธิ์กับสุจินดา เป็นเหรัญญิกและผู้ช่วยฯ เก็บเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต พวกเราหลายคนเลยต้องเข้าไปช่วย

   ลงทะเบียนกันแล้ว พวกเราได้รับของที่ระลึกเป็นกระเป๋าถักไหมพรม มีสายสะพายใบเล็กหลากสีสวยงามคนละใบ   ภายในกระป๋าประกอบด้วยกล่องบรรจุเหรียญพระไพรีพินาศ จากวัดบวรนิเวศวิหาร กทม. สมุดโทรศัพท์เล่มเล็กของพวกเรา แผ่นแม่เหล็กติดตู้เย็นรูปสถานีรถไฟโพธาราม (ติดตู้เย็น ตู้เหล็ก ติดที่เคสคอมพิวเตอร์ที่เป็นเหล็กได้นะครับ) และปฏิทินแผ่นเล็กปี 2555  คิดว่าของที่ระลึกงานนี้คงถูกใจทุกคน ราคาก็อยู่ที่ 40 – 50 บาทครับ

   พวกเราบางส่วนก็เดินไปดูป้ายรูปหมู่เก่าของพวกเราที่ถ่ายไว้เมื่อต้นปี 2507 เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ก่อนที่เราจะจบการศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียนแล้วแยกย้ายกันไป  ใครเป็นใครก็ต้องดูกันเอาเองเพราะไม่มีป้ายชื่อบอกไว้ แต่ก็สนุกดีที่มีการทายกันว่าคนนี้คนนั้นเป็นใคร เพื่อนเราหลายคนที่ไม่มีอยู่ในรูปก็ไปชี้ไปดูกันเป็นที่สนุกสนานเช่นกัน

   พวกเราเมื่อพบกันต่างก็ทักทายกันอย่างชื่นมื่น คุยกันอย่างมีความสุข ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน ผมยืนแอบสุขใจมองดูพวกเรา(อุ๊ย! พูดแล้วขนลุก) บางคนเจอหน้าโผเข้ากอดกันกลมเลย(เพศเดียวกันนะ) เป็นภาพประทับใจยิ่ง  พอคุณครูท่านใดท่านหนึ่งไปถึง พวกเราก็เข้าไปรับไปไหว้ท่านด้วยความซาบซึ้งตื้นตันที่ท่านไปร่วมงาน  พวกเราทุกคนมีความสุขที่เห็นท่าน  หลายคนพบกันถึงกับงง จำหน้าจำชื่อกันไม่ได้เพราะห่างกันไปกว่าครึ่งศตวรรษ  แต่พอรู้ว่าใครเป็นใคร คราวนี้ติดใบฉิวแย่งกันเล่าความหลังอย่างเมามันส์

  เริ่มงาน

 พอพวกเราเข้าที่นั่งโต๊ะกันแล้ว คุณไพบูลย์ พูลเกษม รองประธานจัดงานขึ้นเวทีทำหน้าที่พิธีกรนำเข้าสู่บรรยากาศตามกำหนดการ โดยประกาศเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานทุกคนรับดอกกุหลาบไปไหว้คุณครูที่ได้รับการเชิญให้ไปนั่งที่เก้าอี้ที่จัดเรียงไว้หน้าเวทีจำนวน 14 ท่าน เป็นภาพที่ประทับใจมาก เป็นภาพที่จะตรึงตราอยู่ในใจของทุกคนอย่างมิรู้ลืม ทั้งครูและศิษย์ต่างก็อำนวยอวยพรซึ่งกันและกัน ด้วยความรักที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลายคนปลื้มจนน้ำตาซึมให้เห็น(ใครกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ยกมือขึ้น)

 

 

 

 

  จากดอกกุหลาบที่เป็นสื่อแทนความเคารพรัก ความคิดถึง ความสำนึกในพระคุณที่มอบถึงมือลึกเข้าไปถึงใจของคุณครูทุกท่านแล้ว เราก็ช่วยกันมอบของที่ระลึกแทนคำขอบคุณแด่คุณครูทุกท่าน ศิษย์เก่ารุ่น 08 ก็ร่วมมอบของที่ระลึกที่ทางรุ่น 08 ได้เตรียมมามอบให้คุณครูทุกท่านเช่นเดียวกัน

    จากนั้นเราก็รับประทานอาหารร่วมกัน อาหารวันนี้เป็นโต๊ะจีนที่จัดมาเป็นพิเศษจากร้านเปี๊ยกโภชนา ราชบุรี ของคุณภูมิพัฒน์ พิสิษฐ์เทวากุล  หลายคนชมว่าอร่อย  อร่อยแน่ครับรับประกันเพราะโต๊ะวันนี้ราคาตัวละ 2,000 บาท เราทำตามที่ได้ตั้งเป้าหมายของงานไว้ว่า “ไปกันมาก ๆ กินกันให้อิ่มหมี มีความสุขกันถ้วนหน้า”  รับประทานอาหารกันไปคุยกันไปสักพักก็มีการแสดงฟ้อนดาบภาคเหนือ โดยคุณเตชินทร์ ฝ่ายโภชนากรโรงพยาบาลโพธารามสละเวลาไปสร้างสีสันและให้ความสุขแก่พวกเรา ขอขอบคุณ และขอขอบคุณไปถึงบุญธรรมที่ประสานนำชุดฟ้อนดาบไปร่วมงาน   จบการฟ้อนดาบแล้วพิธีกรได้เชิญผมในฐานะประธานรุ่นและเป็นประธานจัดงานขึ้นกล่าวต้อนรับและเปิดงาน

    .....เป็นเวลาอันเป็นอุดมมงคลฤกษ์แล้ว ผมขอเปิดงาน ณ บัดนี้ครับ

 โดยสรุปว่า วันนี้เรามีความปลื้มปิติกันอยู่ 3 ประการ หนึ่ง ได้ถวายสังฆทานทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่คุณครูและเพื่อน ๆ ศิษย์เก่าที่ล่วงลับไปแล้ว  สอง ได้แสดงมุทิตาจิตแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูอาจารย์ ได้ไหว้ท่านได้กราบท่านที่ได้อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี  ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ เป็นอริยสมบัติติดตัวไปตลอดชีวิต เป็นผู้เป็นคนอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุขทุกวันนี้  และสาม พบปะสังสรรค์พูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน  ผมได้กล่าวขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนทำให้งานวันนี้ประสบความ สำเร็จ เริ่มตั้งแต่คุณครูทุกท่าน ศิษย์เก่าทุกคน รุ่นพี่ 05 ศิษย์เก่ารุ่น 08 ที่เรียนเชิญครั้งใดก็ไปให้อุ่นใจทุกครั้ง

     จากนั้นได้เรียนเชิญคุณครู  โสม อ่อนเอี่ยม กล่าวแสดงความรู้สึกและให้โอวาท สรุปได้ว่าท่านดีใจที่ได้ไปร่วมงาน ศิษย์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่รวมตัวกันได้ดี นึกถึงครูนึกถึงเพื่อน รวมทั้งครูและเพื่อนที่ล่วงลับ เป็นการกระทำที่ดี สร้างสรรค์  

    จากนั้นพวกเราก็รับประทานกันไปคุยกันไป เดินไปสนทนากับคุณครู   เดินไปโต๊ะโน้นโต๊ะนี้  เป็นเวลาที่มีคุณค่าที่สุดที่เราจะได้รำลึกถึงอดีต คุยกันถึงปัจจุบัน และต่อไปถึงอนาคต  สลับกับการร้องเพลง  จับฉลากหาผู้โชคดีมอบของที่ระลึกกัน  พวกเราร้องเพลงเก่ง ๆ กันหลายคน อย่างยุทธศักดิ์ (ตังแช) ร้องเพลงฝรั่งได้เยี่ยม ทันใจขอร้อง 1 เพลง ครูลัดดาตบรางวัลให้ 100 บาท เธอก็มอบให้คณะกรรมการจัดงาน ผมร้อง 2 เพลง ทันใจก็ตบรางวัลให้ถึง 1,000 บาท ผมก็มอบเข้ากองกลางเช่นกัน

    เรามีของขวัญหลายชิ้นนำมาจับฉลากแก่ผู้เข้าร่วมงานที่โชคดี ชุดแรกไม่ต้องจับฉลากเพราะเป็นของขวัญแก่เพื่อน ๆ ที่อยู่ไกล ก็มีคุณอุลิศ จากขอนแก่น  สมหมายจากลำปาง  วิทยา(แกะ)จากอุบล รายนี้มาเหนือเมฆ นั่งเครื่องบินมากับแม่บ้าน  แล้วก็มีเสียงเรียกร้องขอของขวัญแก่ผู้อยู่ใกล้บ้าง ก็โอเคครับสนุก ๆ แบบกันเอง แล้วก็จับฉลากของขวัญชิ้นแรกเป็นธนบัตรที่ระลึก 72 พรรษาในหลวงชุดมีเสียงดนตรี

   คนโชคดีสุดๆ แม้ไม่ได้ไปร่วมงานเพราะต้องซ่อมบ้านที่ถูกน้ำท่วมที่ปทุมธานี ก็ สุเมธไง ฝากเงินไปร่วมช่วยงานด้วย โชคดีได้รางวัลชิ้นนี้เป็นสิริมงคลชีวิตยิ่ง ของที่ระลึกชิ้นถัดมาเป็นชุดพระเครื่องเกจิอาจารย์ 1 กล่องที่วิทย์ โพธิ์เตียนมอบให้ ผู้โชคดีคือ กัลยา หลวงจอก 

   ส่วนกระสินธุ์ ธรรมจง ได้นาฬิกา 1 เรือน ซึ่งหมุยโซมอบให้จับฉลากก่อนบินไปญี่ปุ่น  อีก 2 รางวัลเป็นถ้วยแก้วชุดอย่างดีจากคุณเกียรติศักดิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีมอบให้  ใครได้ไปจำไม่ได้เสียแล้ว ขออภัย 

   นอกจากนี้ยังมีรางวัลต่าง ๆ อีก เช่น หมวกไหมพรม 11 ใบ โอ่งมังกร 6 ใบ เสื้อจากคุณสุณีย์ 1 ตัว  เหรียญเจ้าแม่กวนอิม 37 เหรียญจากคุณคมสิทธิ์-สุจินดา ซึ่งเก็บไว้หลายปีรวมทั้งผ้ายันต์อีกหลายผืนมอบให้พวกเราโดยไม่ต้องจับฉลากลุ้นหาผู้โชคดีอีก  เรียกว่างานนี้ได้รับของที่ระลึกกันถ้วนหน้า(อย่างน้อยก็กระเป๋าไหมพรมไง)  นอกจากนี้ผมได้นำหนังสือชื่อ หลากรส จดแจก ปี 2 ที่ผมเขียน

   รวมทั้งเอกสารชื่อ ศิษย์เก่า เล่าอดีต เขียนโดยบุญธรรม ซึ่งเธอเขียนขณะที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลโพธารามไปวางไว้เพื่อแจกตอนงานเลิก  คมสิทธิ์คงเห็นว่าขืนวางไว้ให้หยิบเองคงมีหลายคนลืมแน่ เลยถือไปเดินแจก  ขอบคุณครับเพื่อน

   ต้องขอโทษพวกเราอยู่นิดนึงที่ผมดำเนินผิดคิวไปหน่อย  ก็คือช่วงมีผู้เสนอให้ถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก ผมก็เห็นดีด้วย พอถ่ายเสร็จ คุณครูและเพื่อนบางคนก็เริ่มทยอยกลับ  ปีหน้าต้องถ่ายตอนไหว้ครูเป็นดีที่สุด ปีนี้ ขอโทษด้วย ๆ

   หลังจากนั้นได้ขอให้พวกเราที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่าง ๆ ได้แสดงตัว บอกชื่อเสียงเรียงนาม ขณะนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไร รู้สึกอย่างไรตามสไตล์ของแต่ละคน ห้องประชุมเงียบกริบไปชั่วขณะก็ตอนที่สุกัญญาภา(หมุยโซ)พูด เธอพูดได้พักเดียวก็พูดต่อไม่ได้ ร้องไห้ด้วยความตื้นตัน จนต้องหยุดไปพักใหญ่จึงพูดต่อจนจบได้

   จากนั้นได้เชิญคุณครูจำนงค์กล่าวถึงความรู้สึกและให้โอวาท ท่านได้อุทิศให้แก่ศาสนา ทำบุญ ทำประโยชน์เพื่อสังคมโดยเฉพาะกิจทางศาสนา ทำให้ทุกวันนี้รอดชีวิตมาได้แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์  ดีใจที่เห็นรุ่นนี้รักกันแน่นเหนียว ให้ความเคารพครูอาจารย์  จากนั้นได้เชิญคุณครูประทีปขึ้นกล่าว ท่านเล่าถึงการได้มาเป็นครูที่โรงเรียนราษฎร์ฯหลังจากจบ ม.ธรรมศาสตร์  ขอให้ทุกคนคิดดี พูดดี ปฏิบัติดี ซึ่งเป็นมงคลชีวิต    บนเวทีก็ยังมีการร้องเพลงของอีกหลายท่าน เช่นคุณไพบูลย์,   คุณกู้ร้องคู่กับลูกสาวสมนึก, ผู้พันสมาน ศิษย์เก่ารุ่น 08 ผู้ไม่เคยพลาดที่จะให้ความบันเทิงเริงใจให้ความสุขแก่พวกเราโดยมีเพื่อนๆ และแม่บ้านผู้พันนั่งปรบมือให้กำลังใจ

   แล้วเวลาเลิกลาก็มาถึง  เราช่วยกันเคลียร์ข้าวของ จนเกือบสี่โมงเย็นจึงเก็บป้ายบนเวทีลง เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจการจัดงานพบปะสังสรรค์ราษฎร์รำลึก 06 ประจำปี 2555 ลงอย่างสมบูรณ์แบบ ป้ายรูปหมู่ของพวกเรา คุณวิทูร จิ้มลิ้ม ขอรับไปโดยช่วยสนับสนุนอีก 500 บาท

   งานพบปะสังสรรค์ครั้งนี้ มีเพื่อน ๆ ไปร่วมงานกันจำนวน 72 คน มีผู้ติดตามเป็นภรรยา 7 คน  สามี 3 คน เพื่อนของเพื่อน 2 คน  ติดตาม 2 คน บุตรชาย 2 คน บุตรสาว 2 คน(รวมผู้ติดตาม 18 คน)  ครูปัจจุบัน 4 คน  คุณครูเก่า 14 คน  บุตรชาย 1 คน ศิษย์เก่า 05  1 คน  ศิษย์เก่า รุ่น 08  6 คน ติดตาม 1 คน ผู้มีเกียรติร่วมงาน 2 คน  รวมทั้งสิ้น 119 คน  และยังมี วงดนตรี 2   โต๊ะ 5   เบียร์ 2

  และทันทีที่งานจบลง  ลูกสาวของสมนึกที่เป็นมือกล้องก็ยื่นแผ่นซีดีภาพงานของพวกเราที่เธอทำหน้าที่ถ่ายให้ ให้กับผม  น่ารักจริงเลยครับ.

   ธีรศักดิ์ ลิขิตวัฒนเศรษฐ ผู้เขียน "บันทึกช่วยจำ"

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้289
เมื่อวานนี้485
สัปดาห์นี้2263
เดือนนี้8430
ทั้งหมด1338314

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online