ไปสัมมนาที่เขื่อน ๒

ำงานร่วมกันเป็นทีม        

 

       หลังจากรับประทานอาหารว่าง และพักผ่อนกันพอสมควรแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวเข้าห้องสัมมนา ซึ่งอยู่ด้านข้างของอาคารสโมสร  โดยมี ท๊อป เจ้าหน้าที่ของคณะทำงานจัดการสัมมนา เป็นผู้อธิบายรายละเอียดของการสัมมนาในครั้งนี้

        TOP

  ท็อปกำลังอธิบายรายละเอียดของการสัมมนา  ก่อนเข้าห้องสัมมนา  เข้าใจรายละเอียดกันดีแล้วก็เตรียมตัวเข้าห้องสัมมนากันในวันแรก 

       ผู้กล่าวเปิดสัมมนาคือผู้อำนวยการสำนักงาน สำหรับในภาคบ่ายคณะทำงานสัมมนา จะได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม และการทำงานเป็นทีมเพื่อองค์กร 

    

คุณกุลทิพย์ สุวรรณปัทมะ  ผู้อำนวยการสำนักงานฯ

   เนื่องจากความรีบเร่งทำเวลาเพื่อ ให้การสัมมนาเป็นไปตามกำหนดการ ทุกคนจะได้เข้าห้องพักก็เมื่อรายการในวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว ก็คงจะตอนเย็นนั่นแหละ พวกเราได้พักรับประทานอาหารกลางวัน ก็เกือบบ่ายที่ห้องอาหารด้านข้างของอาคารสโมสร    ผู้เขียนเพิ่งได้มีโอกาสสำรวจบริเวณรอบๆ  มองจากห้องอาหารเห็นสนามหญ้า ที่ตัดเป็นระเบียบอยู่ทั่วไป ซึ่งก็คือสนามกอล์ฟนั่นเอง

 ทิวทัศน์โดยรอบ ที่ทำการของเขื่อน ดูสวยงามดียิ่งนัก

                      

 ในช่วงเวลากลางวันแดดจัดและอากาศร้อนมาก ไม่มีลมพัดมาช่วยระบายความร้อนเลย   มองดูเห็นแต่ภูเขาล้อมรอบ เหมือนเป็นแอ่งกระทะอย่างนั้นแหละ

 

   ในภาคบ่ายเป็นกิจกรรมเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม  โดยมีคณะวิทยากร จากกรมทหารราบที่  ๑๙  หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า รวมทั้งหมด ๑๗ คนมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มาเป็นผู้อบรมและจัดกิจกรรมให้พวกเรา

  หัวหน้าทีมคือ ร้อยโท วรภาส เบญจชาติ หรือครูโต้ง  จากนั้นก็เป็นการแนะนำตัวของครูแต่ละคนซึ่งผู้เขียนจำชื่อได้ไม่หมด จนถึง “ครูหิ่งห้อย”  (ผู้ชาย)   ก็ได้ยินเสียงพูดข้างๆหูว่า  “ ต้องเรียกแกว่า  ครูห้อย ครูห้อย”  ที่แท้เป็นเสียงของ  คุณขนุน เพื่อนร่วมงานผู้มีอารมณ์ขันของผู้เขียน นั่นเอง

  

     คุณขนุน (ผู้อำนวยการจังหวัดระดับ ๘)  เป็นผู้มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ

  วัตถุประสงค์ของกิจกรรมการทำงานเป็นทีม ก็เพื่อให้ทุกคนได้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น มีความสมานสามัคคีกัน คณะวิทยากรแบ่งพวกเรา เป็นกลุ่มๆละประมาณ  ๑๕  คน ปะปนกันไปทั้งผู้หญิงและผู้ชาย  มีสีประจำกลุ่มคือสี  แดง ส้ม ม่วง ฟ้า เหลือง เขียว   เพื่อเตรียมเล่นเกมส์ที่คณะวิทยากรจัดมา

    ก่อนการเล่นเกมส์ก็มีการร้องการเต้นของเหล่าวิทยากร เพื่อเป็นการปลุกใจให้พวกเราสนุกไปด้วย  เกมส์ที่เล่นก็ไม่ยากเช่น เกมส์ทำอย่างไรให้โยนไข่ลงบนภาชนะ ที่พวกเราประดิษฐ์เองแล้วไข่ไม่แตก แต่ละกลุ่มต่างก็ช่วยกันคิดช่วยกันออกความเห็นกันอย่างเต็มที่ เป็นที่สนุกสนาน

    หลังจากจบกิจกรรมแรกแล้ว ต่อมาก็เป็นกิจกรรมที่สองคือการดำรงชีพในป่า  โดยพวกเราต้องเดินเท้าจากห้องสัมมนาไปยังเนินเขาระยะทางประมาณ   ๘๐๐   เมตร ไปจนถึงที่เรียกว่า  “เส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ”

ข้ามเขาข้างหน้านี่หรือเปล่าครับ จารย์ จึงจะถึงที่หมาย ผมไม่ได้เอาเต๊นท์มากางด้วยซี้..

ในที่สุดก็เดินมาถึงจนได้ นานๆออกกำลังกันทีก็ดีเหมือนกัน เหนื่อยกันบ้างไม๊น้อง               

     ที่นั่นมีวิทยากรชื่อ  “ครูเข่ง” รอพวกเราอยู่  ครูเข่งอธิบายถึงกรณีที่ถ้าเราหลงป่า เราจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร พร้อมทั้งสาธิตเครื่องมือในการดักสัตว์ต่างๆ เช่น ปลา  กระรอก หนู นก เป็นต้น

         อั๋น VDO

ครูเข่งกำลังถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ ป่า ในเรื่องต่างๆให้เราอย่างละเอียด

นั่งฟัง ครูเข่ง บรรยายด้วยความตั้งอกตั้งใจ เผื่อว่าถ้าหลงป่าวันใดก็จะได้เอาวิชาของครูเข่งมาใช้ได้ทันท่วงที 

นี่ นี่  เธอก้มลงมาดูใกล้ๆให้ชั้นทีซิจ๊ะ ชั้นนั่งทับอะไรก็ไม่รู้ นิ่มๆ แฉะๆ

           กิจกรรมสุดท้ายคือการหุงหาอาหารในป่าเพื่อชีวิตอยู่รอด  โดยแต่ละกลุ่มจะได้อาหารดิบเช่น ปลาไข่ข้าวสารและเครื่องปรุง อีกเล็กน้อย  ให้ทุกกลุ่มคิดทำอาหารกันเอง ใช้ไฟจากถ่านหรือฟืนก็ได้ และให้ทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด

"เร็วหน่อย เร้ว จะหมดเวลาแล้วไฟยังไม่ติดอีก เราทำงานกันเป็นทีมนะช่วยกันหน่อย"

ท่านครับ ไม่ต้องห่วงครับสีเขียวเราทันเวลาแน่นอน สีอื่นๆตามเราไม่ทันหรอกครับ ชัวร์

     เมื่อเวลาผ่านไป ทุกๆทีมก็สามารถหุงหาอาหาร ทำกับข้าวที่ตัวเองต้องการ เพื่อยังชีพในป่าได้ทันเวลากันทุกทีม นี่แหละคือการทำงานกันเป็นทีม  เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว

   อยู่ๆก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น มีพระภิกษุรูปหนึ่ง โผล่ออกมาจากชายป่าเดินตัวปลิวเข้ามาหาพวกเราที่กำลังนั่งพักผ่อนกันอยู่ ทีแรกนึกว่าพระธุดงค์มาปักกรดโปรดสัตว์อยู่แถวนี้ พระองค์นี้ดูแปลกๆคงจะเป็นพระป่านั่นเอง จึงยังไม่ได้ปลงผมมานานแล้วผมยาวทีเดียว  แต่พอเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อย เห็นชัดว่าเป็นใครแล้ว ทุกคนในที่นั้นก็หัวเราะกันครืน......! ครูเข่งนั่นเอง

ครูเข่ง  วิทยากรชื่อดัง ซึ่งนุ่งเหลืองห่มเหลือง อยู่ในบทบาทของพระ เรียกเสียงฮาได้มากมาย

 

นิมนต์ค่ะท่านเจ้าคุณ ไปไงมาไงจึงมาถึงที่นี่ได้ล่ะ ฉันเพลมาหรือยังเจ้าคะ ครือว่า.. อยากจะขอเลขสักสามตัว เอาเจ๋งๆนะท่าน แต่ถ้าสามตัวไม่ได้เอาสองตัวก็ยังดี

จริญพร ญาติโยมทั้งหลาย อาตมาคิดว่า งวดนี้ 06 นะ

   

กันเป็นทีม นึกไม่ถึงเลยนะเธอ ในป่าในเขายังมี ฮา..!อีก

    

 เอา ฮา..! ไปถึงไหนกั๊น

   เป็นกิจกรรมที่ต้องทำงานเป็นทีมจริงๆ  ซึ่งทุกกลุ่มก็ทำได้สำเร็จ และรับประทานอาหารเย็นร่วมกันอย่างมีความสุข และสนุกสนาน พรุ่งนี้เราจะได้ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ที่โรงเรียนบ้าน  ดงโคร่ง อ.ทองผาภูมิ  ซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนประมาณ  ๒๐  กิโลเมตร 

 ไม่ทราบเหมือนกันว่าพระป่าจะตามพวกเราไปด้วยหรือเปล่า.... 

ย่าเพิ่งไปนะท่าน อยู่กันก่อนยังไม่จบเลยค่ะ....! ไปตอน ๓ กันต่อนะคะ

   ขอเชิญติดตามกิจกรรมของพวกเรา  ใน    สัมมนาที่เขื่อน ๓    เ็วๆนี้ ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

    ไปดูตอน ๓ กันนะพี่น้อง.....!

    

 ผู้เขียน

 อเชิญพี่น้อง เพื่อนพ้องทั้งหลายแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ได้ที่ข้างล่างนี้จ้า .... เชิญเลยนะจ๊ะ

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้139
เมื่อวานนี้343
สัปดาห์นี้1628
เดือนนี้7795
ทั้งหมด1337679

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online