ปู่อองผู้จากไป ๑

 

 

alt

  ข้อเขียนนี้จัดทำขึ้นเพื่อระลึกถึงปู่ออง หรือ นายลออง จุ้ยจิตต์ ซึ่งได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ปู่อองผู้เปรียบเสมือนญาติคนหนึ่งของผู้เขียนเนื่องจากได้สมรสกับครูปราณี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เขียน ด้วยระยะเวลาที่ได้รู้จักปู่อองมากว่าสามสิบปี ผู้เขียนจึงตั้งใจที่จะเขียนเรื่องราวของปู่อองเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงปู่ออง ผู้จากไป

 

 

 alt

ปู่อองในวัยหนุ่ม

 

alt

ปู่อองเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ที่ชุมชนวัดบ้านซ่อง ตำบลท่าราบ ชุมชนวัดบ้านซ่อง เป็นชุมชนเล็กๆอยู่ห่างจากตำบลเจ็ดเสมียนประมาณ ๒ กิโลเมตร เมื่อปู่ได้สมรสกับครูปราณีซึ่งเป็นคนเจ็ดเสมียน ปู่จึงได้ใช้ชีวิตที่เจ็ดเสมียนมาตลอดจนถึงแก่กรรม

แรกเริ่มเดิมทีปู่เป็นคนชอบเรื่องเครื่องยนต์และพอมีความรู้อยู่บ้าง จึงได้ทำงานเป็นลูกจ้างในร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ จนในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ครูหิรัญ สุวรรณมัจฉา บิดาของครูปราณีได้ให้เงินเป็นทุนในการประกอบชีพ  ๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก ครูปราณีจึงได้นำเงินจำนวนนี้ไปวางดาวน์รถยนต์กะบะมาสด้าเพื่อนำมาให้ปู่ขับรับจ้างทั่วไป

 

alt

 รถกะบะมาสด้าคู่ใจ

ปู่อองเป็นคนขยันในการทำมาหากิน ทุกเช้าประมาณตี ๕ ปู่จะเริ่มออกรถเพื่อไปรับแม่ค้าตามจุดต่างๆรายทาง นับตั้งแต่เจ็ดเสมียน วัดสนามชัย วัดใหม่ วัดบ้านซ่อง หนองบางงู เมื่อส่งแม่ค้าที่ตลาดที่ราชบุรีแล้ว ปู่จะรีบกลับมารับเด็กนักเรียนไปส่งที่ตัวจังหวัดอีกรอบหนึ่ง นอกจากนั้นไม่ว่าใครจะจ้างไปไหน ปู่ไปทุกแห่งไม่ว่าใกล้ไกล ในแต่ละเดือนปู่จะรวบรวมเงินที่ทำมาหาได้ไปส่งค่างวดรถ ไม่เคยขาดแม้แต่งวดเดียวจนผ่อนหมด

 

alt

ปู่อองกับครอบครัว

ปู่มีบุตรชายสามคน คือ  

 

๑.  นายสุริยะ    จุ้ยจิตต์    ปัจจุบันทำงานที่ บริษัทไทยโมลาส จำกัด

๒.  นายธนิต     จุ้ยจิตต์    ประกอบอาชีพส่วนตัว 

นายนราธิป   จุ้ยจิตต์   ปัจจุบันรับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  กทม.

และปู่มีหลานสี่คน เป็นชายสองคนและหญิงสองคน

 

alt

งานบวชบุตรชาย สุริยะ จุ้ยจิตต์ เมื่อ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๔

 

alt

วันรับปริญญาของบุตรชายคนเล็ก นราธิป จุ้ยจิตต์ จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล 

ปู่ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างเรื่อยมาจนอายุ ๖๕ ปีจึงได้หยุดเนื่องจากอายุมากแล้ว ลูกๆขอให้เลิกขับเพราะหูตาไม่ค่อยจะดีเหมือนเมื่อก่อน ประกอบกับรถกะบะมาสด้าที่ใช้ในการทำมาหากินซึ่งมีอายุกว่า ๓๕ ปีได้หมดสภาพลงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป แม้ว่าปู่จะคอยดูแลบำรุงรักษาอยู่เสมอ ต่อมาบุตรชายคนเล็กได้ขอเอาไปซ่อมทำใหม่ เนื่องจากชอบรถเก่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

หลังจากเลิกขับรถ ปู่ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่บ้านไร่ริมคลองชลประทานเจ็ดเสมียน โดยมีบ้านของลูกชายอยู่ใกล้ๆในบริเวณเดียวกัน ปู่เริ่มป่วยเป็นโรคเบาหวานเมื่อกว่าสิบปีที่แล้วแต่ก็ได้รับการรักษาที่ ร.พ.เจ็ดเสมียน โดยไปรับยามากินเป็นประจำ ทุกครั้งที่ผู้เขียนไปไร่ริมคลอง จะเห็นปู่ออกมานั่งสูบบุหรี่หน้าบ้าน สายตาเหม่อมองไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย 

            

เมื่อปู่เลิกขับรถแล้วปู่ก็ไม่ได้ออกไปไหน จากเดิมปู่จะเข้าเมืองราชบุรีทุกวันเพื่อไปส่งลูกค้า แต่ตอนนี้ปู่อยู่แต่ในบ้านนอกจากออกไปร้านค้าใกล้ๆ เพื่อซื้อบุหรี่ (ปู่เป็นคนติดบุหรี่อย่างมาก) หรือออกไปคุยกับนายเชียรเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมาหลายสิบปี ซึ่งเมียแกเปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ใกล้คลองชลประทาน สิ่งนี้คงจะทำให้ปู่คลายความเหงาไปได้บ้าง

 

 alt

ปู่อองกับหลาน 

         

ธนิตบุตรชายเล่าให้ฟังว่าหมอที่รักษาโรคเบาหวานบอกว่าปู่เป็นโรคซึมเศร้า ตามประสาคนแก่ทั่วไปแม้จะอยู่ใกล้ลูกหลานก็ตาม ระยะหลังๆมานี้ปู่มักมีอาการหลงลืมพูดจาวกไปวนมาบ่อยครั้ง ผู้เขียนเคยสังเกตเห็นว่าปู่ดูเหมือนซูบผอมลง ร่างกายเหมือนออกจะเหลือง ได้ถามปู่ว่าไม่สบายหรือเปล่า ปู่ก็จะบอกว่าไม่เป็นอะไรสบายดี ทุกครั้ง 

วันหนึ่งของเดือนกันยายนที่ผ่านมาปู่มีอาการหน้ามืดเหมือนเป็นลม ลูกๆได้พาไปหาหมอที่ ร.พ.เจ็ดเสมียนซึ่งอยู่ใกล้บ้านในทันที ร.พ.ได้ทำเรื่องส่งตัวปู่ไปตรวจอาการที่ ร.พ.ราชบุรีเพื่อตรวจสมองเพิ่มเติม ผลการตรวจพบว่าเส้นโลหิตเส้นหนึ่งในสมองตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ 

ปู่ได้พักรักษาตัวที่ ร.พ.ราชบุรีเป็นเวลา ๑๐ วัน ระหว่างนั้นก็ได้ทำกายภาพบำบัดสัปดาห์ละสองครั้ง หลังจากนั้นปู่ได้กลับมาเข้ารับการรักษาต่อที่ ร.พ.เจ็ดเสมียนอีก ๕ วันจึงได้กลับบ้าน

 

alt

ขณะพักรักษาตัวที่ ร.พ.ราชบุรี

แพทย์ที่ ร.พ.เจ็ดเสมียนเห็นว่าปู่มีอาการตัวเหลืองมาก จึงส่งตัวปู่ไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.ราชบุรีอีกครั้ง ผลจากการตรวจเลือดหมอพบว่าปู่เป็นไวรัสตับอักเสบซี และตับแข็งซึ่งน่าจะเป็นมานานแล้ว หมอบอกผู้เขียนว่าอาการของปู่เกินกว่าที่จะรักษาแล้ว 

ปู่เป็นคนไม่ดื่มสุราทำไมเป็นตับแข็งได้ หมออธิบายว่าไวรัสตับถ้าเป็นมานานๆก็เป็นผลให้ตับเสียหายได้ ซึ่งหมอก็ได้นัดให้ปู่ไปพบแพทย์อีกหลายครั้งโดยกลับบ้านได้ ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก

ต่อมาร่างกายของปู่เริ่มอ่อนแรงลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากปู่กินข้าวไม่ได้ ธนิตลูกชายและลูกสะใภ้ต้องคอยช่วยพยุงลุกนั่ง มาระยะหลังปู่ไม่ได้ลุกอีกเลย ปู่ได้แต่บอกลูกๆว่าปู่ไม่ไหวแล้ว เวลามีคนมาเยี่ยมปู่จะมองและน้ำตาไหลทุกครั้ง 

ก่อนที่ปู่จะจากไปสองวัน ตอนเช้าปู่ขอให้ธนิตพาปู่ออกไปนั่งหน้าบ้านทั้งๆที่ปู่ลุกนั่งไม่ได้มากว่าเดือนแล้ว (ปู่คงคิดว่าเวลาของปู่เหลือน้อยเต็มที ..ผู้เขียน) ปู่นั่งหน้าบ้านอยู่นานจนแดดร้อนลูกชายจึงพาเข้าบ้าน

ตกบ่ายของวันนั้นปู่มีอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอกอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำคล้ำ ลูกๆรีบพาส่ง ร.พ.เจ็ดเสมียน ในเบื้องต้นหมอบอกว่าปู่ช๊อคเนื่องจากขาดน้ำตาลเพราะปู่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อกินอาหารไม่ได้ร่างกายจึงขาดน้ำตาล นอกจากนั้นปู่ยังมีอาการเลือดออกในทางเดินอาหารอีกด้วย ร.พ.เจ็ดเสมียนจึงส่งต่อไปยัง ร.พ.ราชบุรี 

เมื่อถึง ร.พ.ราชบุรี หมอบอกว่าปู่มีอาการเข้าขั้นโคม่าแล้วไม่รู้สึกตัว ปู่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์โดยใกล้ชิด รอบตัวปู่มีเครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดความดันและสายระโยงระยางเต็มไปหมด ปู่จากไปด้วยอาการอันสงบตอนค่ำของวันรุ่งขึ้นคือ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลาหนึ่งทุ่มสิบห้านาที รวมสิริอายุได้ ๖๙ ปี

 

alt 

สวดพระอภิธรรมที่วัดเจ็ดเสมียน 

ยี่สิบเก้าพฤศจิกาปู่ลาจาก                   

หมดทุกข์มากโรครุมเร้าเข้าเต็มที่

การเกิดแก่เจ็บตายทุกชีวี

หนีไม่พ้นจนหรือมีเป็นเช่นกัน

ลืมเสียเถิดความหลังที่ฝังจิต

ลืมเสียเถิดชีวิตที่คิดฝัน

ลืมเสียเถิดทุกสิ่งทุกอย่างอัน

สูญสิ้นพลันพร้อมดวงใจอาลัยลา

นับแต่นี้ต่อไปไม่มีปู่

ลูกหลานอยู่ยังคิดถึงคะนึงหา

ไปแล้วไปลับไม่กลับมา

หมดเวลาจำจากไปสุดไกลกัน

ขอกุศลผลบุญช่วยรักษา

ให้วิญญาณ์ปู่นั้นไปสวรรค์

จากไปพร้อมกลิ่นธูปและเปลวควัน 

ขอให้ปู่สุขสันต์นิรันดร.

 

alt

ที่สุดท้ายของชีวิต

 

ด้วยความอาลัยและระลึกถึงปู่ออง

 

alt

อ.  ปลาทอง  ๒๖  มกราคม  ๒๕๕๘

 

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้119
เมื่อวานนี้369
สัปดาห์นี้488
เดือนนี้4391
ทั้งหมด1323725

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online