แป้งขาว 3 ( ปีใหม่ในฤดูหนาว)

    

    ต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศเริ่มหนาว ผมกับย่าตื่นนอนเวลาเดิมแต่ท้องฟ้ายังมืด ย่าบอกว่าคนแก่นอนน้อย

  ผมก็คิดว่าอย่างนั้นเพราะเห็นย่าตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ถึงแม้ผมจะง่วงนอนมากแค่ไหน แต่ก็มีหน้าที่ออกไปเดินนอกรั้วบ้านพร้อมกับย่าตอนเช้าทุกวันเหมือนกัน

       ผมจะรู้ว่าหน้าหนาวมาถึงแล้ว เพราะย่าจะเริ่มก่อไฟเผาหญ้าแห้งที่หน้าบ้าน พ่อปราบไม่ชอบให้ย่าเผาหญ้า พ่อบอกว่าควันไฟจะทำให้ย่าไม่สบาย

   แต่ย่าไม่เชื่อหรอก ผมว่าย่าติดนิสัยก่อไฟในหน้าหนาวมาแต่ครั้งยังสาวเป็นแน่แท้ ผมชอบหน้าหนาวเพราะพี่ปรางค์ จะเอาเสื้อมาใส่ให้ผมและแม่

  ปีนี้ผมได้เสื้อสีน้ำเงินมีลวดลายเหมือนเสื้อที่พี่ปรีดิ์ใส่เล่นฟุตบอล ส่วนของแม่ตาลเป็นสีส้มมีลวดลายน่าดูเช่นกัน 

  วันแรกที่ผมใส่เสื้อนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะเดินไปมาที่หน้าบ้านหลายรอบ เพื่อนๆแซวผมกันใหญ่ว่าเท่ห์ ไม่ต้องพูดหรอกไอ้โต๋เต๋ 

  ผมมองเห็นความหมั่นไส้อย่างชัดเจนในดวงตาคู่นั้นของมัน ผมไม่ได้ตั้งใจให้ใคร   ริษยาหรอกครับ  แหม ผมอยากบอกทุกคนว่า เสื้อนี้ผมใส่เองได้ซะที่ไหน

    ฤดูหนาวที่บ้านผมก็คงเหมือนที่อื่น  ที่หนาวมาก เวลาพูดหรือหายใจบางครั้งมีไอสีขาวๆออกมา  ผมนั่งเฝ้าย่าก่อกองไฟ  พอตีนฟ้าเริ่มเปิด ( ย่าบอกอย่างนั้น  )

  ผมเห็นคนหนุ่ม สาว และเด็กขี่จักรยาน (พี่ปรีดิ์เรียกว่าเสือภูเขา แต่ผมว่าเป็นจักรยาน) มีมากจริงนะครับที่หมู่บ้านผม กลุ่มหนึ่ง 5-6 คน เป็นสิบก็มี บางที่มาเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก  คนแถวบ้านผมชอบออกกำลังกาย

    ทุกคนแต่งตัวแปลกๆ ใส่หมวกและเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด ผมได้ยินแม่ดาคุยกับพ่อปราบว่า หมู่บ้านเรามีชมรมจักรยานนี้ มีหมอมิ้งค์เป็นหัวหน้า

   พูดถึงหมอมิ้งค์ เขาเคยมาฉีดยาผมกับแม่ ผมกลัวมากจะวิ่งหนีแต่ไม่กล้า พ่อปราบดุจะตาย ผมไม่กล้าขัดคำสั่งหรอก

  แม่ดาบอกว่าหมอมิ้งค์เป็นคนดี รวบรวมเด็กๆที่เกเรในหมู่บ้าน หรือเด็กที่ว่าง มาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการขี่จักรยาน แม่ดาและพ่อปราบก็อยากปั่นจักรยานด้วยแต่ติดที่ว่าต้องไปทำงานไกลๆจึงไม่มีเวลาปั่น

  หน้าหนาวนี้ที่หมู่บ้านผมมีงานใหญ่  เขาว่าเป็นงานฉลองขึ้นปีใหม่   สนุกจริงๆครับ ทุกคนได้อยู่บ้านกันพร้อมหน้าหลายๆวัน  ที่วัดก็มีงานผู้คนมากมาย 

 เพื่อนๆของผมตื่นเต้นคึกคัก เพราะปีใหม่จะมีเศษอาหารมากกันทุกบ้าน และจะเป็นอาหารแปลกๆที่พวกเราไม่ค่อยได้กิน สำหรับผมไม่อยากบอกใครๆครับว่า ผมและแม่ไม่เคยกินเศษอาหารเลย

   ย่าจะทำอาหารใหม่ๆให้กินทุกวัน ผมและแม่มีตู้เย็นส่วนตัวถึงเก่าหน่อยแต่ก็โอเคครับ ในนั้นจะมีอาหารของผมและแม่ไม่ปนกับใคร มีปลาทู ไก่ เลือดหมูของโปรด 

  บางครั้งผมยังเห็นพี่ปรีดิ์มาแย่งไก่ทอดของผมไปกินเลย วันที่แย่สุดๆที่อาหารหมดย่าก็ยังเจียวไข่ให้ผมกับแม่ ผมนี่ทำบุญมาดีจริงๆครับ ผมจะทำดีต่อไป เผื่อไว้ชาติหน้า จะได้เจอครอบครัวนี้อีก ผมไม่ประมาทหรอกครับ

  ปีใหม่ปีก่อน ผมจำได้ไม่ลืมมีคนมาที่บ้านเยอะแยะ มีครอบครัวของอาปริมๆเป็นลูกของย่า น้องพ่อปราบ อาปริมมีลูก 2 คน ชื่ออะไรผมจำไม่ได้ครับ เพราะไม่ได้มาบ่อย ส่วนมากอาปริมจะมาหาย่าคนเดียว แต่ปีใหม่นี่มาทั้งครอบครัวครับ

 นอกจากครอบครัวอาปริมก็มีครอบครัว  อาปอง ๆ ก็เป็นลูกของย่าอีกคน บ้านอาปองอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา แต่ไม่ค่อยได้มาเพราะอาปองทำงานเป็นครูไม่ค่อยว่าง

 ครอบครัวอาปองก็มี 4 คนเหมือนอาปริมเหมือนกัน ปีนั้นดูย่ามีความสุขมากที่เห็นลูกๆมาพร้อมหน้ากัน ย่าชอบคุยกับผม 2 คนว่า ย่าแก่แล้วอยู่อีกไม่นาน

  บางครั้งย่าก็พูดถึงเรื่องเก่าๆ พูดเหมือนกำลังคุยกับใคร  ย่าบอกว่าพูดกับปู่  ผมละกลัวเลยก็ปู่ตายไปนานแล้วนี่ครับ ถ้าคุณว่าหมาไม่กลัวผีละก็ ผมเถียงขาดใจ

  กลับมาเรื่องงานปีใหม่ดีกว่า พอทุกคนมาพร้อมกันแล้วก็กินข้าวกัน ผมก็ได้กินด้วย อาหารสุดยอดเลย มีลูกชิ้นปิ้งหมูย่างอะไรที่เขานั่งล้อมวงกันย่าง

  ถ้าผมไปอยู่ข้างๆ เขาก็จะส่งให้ผมด้วย แม่ตาลชอบว่าผมว่าไม่มีมารยาท ชอบไปป้วนเปี้ยนเวลาเจ้านายกินข้าว ผมไม่เห็นแปลก นี่มันงานปีใหม่บ้านผม แล้วผมเป็นลูกบ้านนี้ก็ต้องมีส่วนร่วมซิครับ

  พอทุกคนอิ่มแล้ว แม่ดาให้เด็กๆทุกคนมาเล่นเกมส์ล่าสมบัติ ประมาณว่าหาของขวัญเป็นด่านๆไปครับ บางด่านพี่ปรีดิ์ต้องทำปากเบี้ยวขาเป๋ บางด่านพี่ปรางค์เดินเป็ด 

  บางด่านทุกคนต้องกอดกันทั้งหมด มีด่านหนึ่งแม่ดาเอากระดาษลายแทงมาใส่ที่กระเป๋าเสื้อผม ทุกคนวิ่งกรูมาจับตัวผมๆตกใจวิ่งหนีเขายิ่งไล่  พอจับผมได้ก็ค้นตัวผมใหญ่ หัวเราะกันสนุกสนาน ปีนั้นทุกคนดีใจได้ของขวัญที่ถูกใจ

   ตอนดึกๆมีการยิงปืนกันเกือบทุกบ้าน ผมไม่รู้ยิงทำไมเสียงดังตกใจหมด แม่ดาไม่ชอบปืนแค่เห็นก็ไม่เข้าใกล้ แต่พี่ปรีดิ์ชอบมาก พ่อปราบเป็นคนยิง

  พี่ปรีดิ์จะยืนดูและบอกให้ยิงอีก ส่วนย่าก็ชอบให้ยิง ย่าบอกคนจะได้รู้ว่าบ้านเรามีปืน จะได้กลัวไม่กล้าเข้ามา

  เช้าหลังจากวันที่ยิงปืนเราจะไปที่วัด แม่ดาเตรียมของใส่บาตรมากจริงๆ เป็นถาดๆ และกับข้าวใส่ปิ่นโตไปทำบุญ ผมไม่พลาดอยู่แล้วไปทุกครั้ง

  ผมชอบมีส่วนร่วมในชุมชนครับ มันทำให้ผมภูมิใจ และรักชุมชนนี้มากขึ้น เวลาเห็นผู้คนยิ้มแย้ม ทักทายกัน ช่วยเหลือกัน

   มีหมาจำนวนไม่น้อยที่จิตใจคับแคบ นอกจากไม่มีส่วนร่วมกับชุมชนแล้ว ยังชอบนินทาคนที่เขาช่วยเหลือส่วนรวม

  ผมว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำแท้ๆ แต่สังคมก็อย่างนี้แหละครับ แม่ดาสอนลูกๆว่า สังคมมีคนหลากหลาย ทุกอย่างมี 2 ด้าน มีดำ มีขาว เป็นธรรมชาติ

 เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมอย่างธรรมชาติ  ต้องรู้ว่าอะไรคือดำอะไรคือขาว เราต้องเป็นสีขาวที่อยู่ร่วมกับสีดำได้อย่างมีความสุข   แม่ดาเป็นอย่างนี้แหละครับ ชอบสีขาวแต่ไม่ทอดทิ้งสีดำ พี่ปรีดิ์ว่าที่แม่ดาพูดต้องเป็นทางม้าลายแน่ๆ  ตลกจัง  

    ปีนี้ผมไม่รู้ว่าจะมีงานปีใหม่ที่บ้านไหม ผมยังไม่เห็นใครพูด  แต่อย่างไรฤดูหนาวที่หมู่บ้านผมก็ สวยงาม มีบรรยากาศของงานฉลอง    นึกแล้วมีความสุขจริงๆครับ...

ปรดรออ่าน แป้งขาว ตอนต่อไป มีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น......!

ป้งขาว ๓ (ปีใหม่ในฤดูหนาว) เขียนโดย palida 

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้332
เมื่อวานนี้485
สัปดาห์นี้2306
เดือนนี้8473
ทั้งหมด1338357

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online