เรื่องขำๆประจำวัน

  โรงพยาบาลราชบุรีเป็นโรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่งในสองแห่งของเขต 7 ตั้งอยู่เลขที่ 85 ถนนสมบูรณ์กุล อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี. 

   ตอนนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้วฝนตกแทบทุกวัน คนไปทำงานก็ค่อนข้างจะเดือดร้อน เพราะฝนมักจะตกตอนเช้าจะออกจากบ้านไปทำงาน แล้วมาตกอีกทีตอนใกล้เลิกงานจะกลับบ้าน บางคนเรียกว่าฝนราชการเสียเลย

 โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ฝนตกเมื่อไรเป็นต้องรถติดสุดๆทุกครั้งไป (ปกติรถก็ติดอยู่แล้ว)  อยู่ต่างจังหวัดดีอยู่อย่างที่รถไม่ติด ถึงจะมีบ้างก็เล็กน้อย
 
  ปัจจุบันผู้เขียนเกษียณอายุราชการแล้วและกลับมาอยู่บ้านที่ราชบุรี ด้วยวัยที่สูงขึ้นบรรดาโรคภัยไข้เจ็บก็ดาหน้ากันเข้ามาหา ตั้งแต่โรคธรรมดาจนถึงโรคร้ายแรง จึงต้องไปโรงพยาบาลบ่อยครั้งตามที่หมอนัด ทั้งโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
 
  การไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งต้องบอกว่าค่อนข้างเครียดเพราะทุกโรงพยาบาลจะเหมือนกันคือคนไข้ล้นโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆในกรุงเทพฯ แต่ละคนต้องรอหมอนานมาก
 
  ความจริงไม่เฉพาะคนไข้ที่เครียด ทั้งหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างก็เครียดกันทุกคน บางทีเกือบบ่ายโมง คนไข้รอบเช้ายังตรวจไม่หมดเลย เดี๋ยวรอบบ่ายก็มาอีกแล้ว น่าเห็นใจบรรดาคุณหมอจริงๆ ที่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ ไม่รู้ข้าวเที่ยงจะได้กินกี่โมง
 
  ถึงแม้จะต้องรอพบหมอกันครึ่งค่อนวัน แต่พอได้พบหมอ ความเครียดที่ต้องรอนานก็ดูเหมือนจะหายไปหมดสิ้น คนอื่นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับผู้เขียนได้พบแต่หมอที่ใจดีมีเมตตากับคนไข้ บางทีเราท้อแท้กับโรคภัยที่เป็นอยู่ หมอก็จะพูดแนะนำและให้กำลังใจเป็นอย่างดี ทำให้ประทับใจมาก

  ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เป็นภาพหน้าปกของ DVD ภาพยนต์ ซีรี่ส์ เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอที่ช่วยเหลือคนไข้ที่แผนกฉุกเฉิน ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ สหรัฐอเมริกา เคยดูหรือยัง ถ้ายังไม่เคยดูก็หามาดูซะ..

  การไปโรงพยาบาลแม้จะเครียดแต่ก็มีเรื่องเบาๆอยู่บ้าง บางทีก็ขำดี อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่โรงพยาบาลใหญ่ที่กรุงเทพฯ ผู้เขียนไปพบหมอตามนัด (ทุกสามเดือน) มีอยู่ครั้งหนึ่ง พอพยาบาลเรียกให้เข้าพบหมอได้ ผู้เขียนก็รีบเข้าห้องตรวจ แต่ปรากฏว่าได้พบหมอที่ไม่ใช่หมอที่มาหาประจำ  แต่เป็นหมอชายที่ใส่เสื้อสีขาว มีปักชื่อที่อกเสื้อ คิดว่าคงเป็นหมอใหม่เป็นแน่
 
  คุณหมอใหม่บอกว่า หมอมาแทนอาจารย์นะ แล้วก็อ่านประวัติการเจ็บป่วยของผู้เขียนในแฟ้ม เสร็จแล้วหมอก็ถามอาการทั่วๆไป ผู้เขียนบอกหมอว่าตอนนี้น้ำหนักลดลงหลายกิโล เพราะกินได้น้อย กินได้ไม่กี่คำก็เต็มกระเพาะเสียแล้ว  หมอถามว่าเบื่ออาหารหรือไม่ ก็ตอบหมอไปว่าไม่เบื่ออาหาร ยังมีความหิวอยู่

 

   โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ
 
  หมอก็เลยแนะนำว่า ถ้ากินได้น้อย ต้องกินบ่อยๆ มีอะไรก็ยัด..ยัดเข้าไป อย่าไปเกรงใจ แล้วหมอก็หัวเราะร่วน คงคิดขี้นมาได้ว่ากำลังพูดกับคนไข้ ไม่ใช่กับเพื่อนฝูง ผู้เขียนเลยหัวเราะไปด้วย สรุปแล้วหมอใหม่คนนี้เป็นคนอารมณ์ดี เพราะระหว่างที่ตรวจคนไข้ ได้ยินหมอฮัมเพลงในคออยู่เบาๆ ก็ดีไปอย่าง ได้พบหมออารมณ์ดี ทำให้ไม่เครียด
 
  เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ผู้เขียนมีอาการปวดตามข้อในร่างกายหลายที่ เช่นที่มือ ที่แขน ที่ไหล่ จนถึงหัวเข่า ได้ไปหาหมอกระดูกหลายหมอ แต่อาการไม่ดีขื้น บางวันปวดมากจนนอนไม่หลับ มันมักจะเป็นตอนกลางคืนเสียด้วย  มีคนแนะนำว่าไปหา หมอ ก.เอียด สิ ..  หมอเขาเก่งเรื่องข้อ บางทีจะดีขึ้น
 
  ผู้เขียนจึงตัดสินใจไปหาหมอ ก.เอียด  (ด้วยจรรยาบรรณของคนไข้  จึงไม่สามารถเปิดเผยนามที่แท้จริงของหมอได้)  หมอเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี หมอมีคนไข้เยอะมาก เห็นได้จากคนไข้ที่รอพบหมอที่หน้าห้องตรวจ
 
 เมื่อพบหมอครั้งแรก (หมอชาย)  ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าหมอเป็นคนรูปร่างผอมบาง ท่าทางคล่องแคล่ว อายุน่าจะไม่ถึงห้าสิบ  ไม่ว่าจะพูดหรือเขียน หมอจะทำอย่างรวดเร็ว คงรู้ว่ายังมีคนไข้ที่รอหมออีกเยอะ
 
  “ เรื่องราวความเป็นมาเป็นอย่างไร เล่ามาเล๊ย..เล่ามา”  หมอพูดเป็นคำแรก ผู้เขียนเล่าอาการที่เป็นให้หมอฟัง ขณะกำลังฟังหมอก็จดบันทึกลงไป ในแฟ้มคนไข้ไปด้วยอย่างรวดเร็ว หลังจากพิจารณาข้อนิ้วมือของผู้เขียนประกอบกับอาการที่เล่าให้หมอฟัง สรุปได้ว่าเป็นโรครูมาตอยด์
 
  หมอสั่งยามาให้ ๘ อย่าง จริงๆแล้วเป็นยารักษารูมาตอยด์แค่ ๓ อย่าง นอกนั้นเป็นพวกแคลเซียม ยาวิตามินต่างๆที่บำรุงร่างกาย มียาอยู่อย่างหนึ่ง (ตอนหลังหมอบอกว่าเป็นยาควบคุมรูมาตอยด์) ให้กินครั้งละ ๓ เม็ดทุกวันอังคาร
 
  “เอายาไปกินก่อน หมอนัดอีกเดือนนึงนะ” ก่อนพบหมอให้ไปตรวจเลือด เอาผลตรวจเลือดมาให้หมอด้วย  พอถึงวันนัด ผู้เขียนก็ได้ไปตามนัดไม่มีพลาด หมอดูผลเลีอดและพิจารณาจากกระดูกหลังมือที่เหมือนกับมีอาการอักเสบ
 
  หมอพูดว่า”ยัง มันยังไม่ยอม  มันยังไม่ยอม” เอาอย่างนี้ หมอให้ยาไปกินต่อ  ยา....(ภาษาอังกฤษ)  ที่ควบคุมรูมาตอยด์ เอา ๗ เม็ดไปเลย กินวันอังคาร ๔ เม็ด วันพุธ ๓ เม็ด  “ต้องเอามันให้อยู่ จนกว่ามันจะยอมสยบ” หมอพูดอย่างเข่นเขี้ยว
 
  ผู้เขียนเลยถือโอกาสถามหมอว่า ที่หัวเข่า เวลาขยับ มันจะดัง กร๊อบ แกร๊บทุกครั้ง  คุณหมอช่วยดูให้หน่อย พร้อมกับขยับหัวเข่าให้หมอดู หมอซึ่งกำลังเขียนใบสั่งยาอย่างรีบเร่ง หันมามองแล้วบีบที่หัวเข่าเบาๆ พร้อมกับพูดว่า
“คุณป้า  มันเสื่อมหมดแล้ววววว...” ว่าแล้วหมอก็นัดอีก ๒ เดือน  นี่ก็ใกล้จะถึงวันนัดอีกแล้วสินะ...
 
  ขอแถมเรื่องขำอีกเรื่อง  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าบ้านของผู้เขียนเองแหละ  ตามปกติถนนหน้าบ้านจะมีบรรดารถซาเล้งรับซื้อของเก่า  รถขายผลไม้ รถขายไอ   ศครีม ผ่านหน้าบ้านเป็นระยะๆ แต่เรื่องที่จะเล่านี้ไม่ใช่รถพวกนี้หรอก


   นี่คือลักษณะของรถดูดส้วมทั่วๆไปเป็นอย่างในภาพนี้ ภาพประกอบจาก http://www.truck2hand.com

 
  เสียงบีบแตร ปี๊ด ๆๆ มาแต่ไกล พร้อมกับเสียง “ดูดส้วมมั๊ยคร้าบ ดูดส้วม..ม”  ผู้เขียนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน รถดูดส้วมคันนั้นกำลังผ่านมาพอดี รถดูดส้วมจะมีลักษณะแบบบรรทุกแท้งค์ใบใหญ่ มีสายยางค่อนข้างใหญ่สีดำพันอยู่บนแท้งค์นั้น รถดูดส้วมจะทาสีฟ้าทั้งคัน รถมีลักษณะกลางเก่ากลางใหม่ 
 
  พอรถดูดส้วมวิ่งมาอย่างช้าๆผ่านหน้าบ้าน พลันสายตาของผู้เขียนก็เห็นว่ามีสติกเกอร์ติดอยู่ที่แท้งค์ด้านหลัง  เขาเขียนว่า “เรื่องของขี้ ที่ไม่ใช่ขี้ขี้”ทำให้ผู้เขียนอดหัวเราะไม่ได้ คนไทยช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ
 
  แล้ววันหนึ่งผู้เขียนมีอันต้องไปธุระที่จังหวัดนครปฐม โดยรถตู้ที่ปัจจุบันนี้มีอยู่ทั่วไป ระหว่างที่รถวิ่งผู้เขียนก็มองวิวทิวทัศน์สองข้างทางไปเรื่อยๆ  แล้วสายตาก็เห็นรถดูดส้วมวิ่งผ่านไป (คงไม่ใช่คันนั้นหรอก)  ที่สำคัญมีสติกเกอร์ติดอยู่ที่แท้งค์ด้านหลัง เขาเขียนว่า “เจอสาววิ่งหนี เจอขี้วิ่งใส่” คราวนี้เลยต้องแอบหัวเราะอยู่ในรถตู้ กลัวว่าผู้โดยสารคนอื่นเขาจะคิดว่าเราบ๊องหรือเปล่าที่หัวเราะคนเดียว
 
สำหรับสโลแกนนี้ จะเอาไปทายปัญหาอะไรเอ่ยก็ได้นะ ไม่สงวนลิขสิทธ์
              อะไรเอ่ย :    เจอสาววิ่งหนี เจอขี้วิ่งใส่
                  เฉลย :    ก็ รถดูดส้วม ไง...!    
 
ขำๆวันละนิดจิตแจ่มใสนะ....จะบอกให้   แล้วพบกันใหม่  สวัสดี.

 
 
อ. ปลาทอง ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้371
เมื่อวานนี้485
สัปดาห์นี้2345
เดือนนี้8512
ทั้งหมด1338396

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online