น หนูขวักไขว่

 

   ใครไม่รู้จักหนูยกมือขึ้น หนูที่จะกล่าวถึงนี้หมายถึงหนูที่มีสี่ขา มิใช่หนูที่มีสองขาแต่อย่างใด ผู้เขียนเชื่อว่าแทบทุกบ้านจะต้องเคยเห็นหนูตามท่อระบายน้ำ ตามบริเวณบ้านโดยเฉพาะใกล้ครัวหรือถุงขยะ หรือแม้แต่บนฝ้าเพดานบ้าน  เช่นที่บ้านของผู้เขียน ก็มักจะได้ยินเสียงตึงตังบ่อย ๆบนฝ้าเพดาน จนบางครั้งคิดว่าเป็นงูหรือตัวอะไรสักอย่างกำลังสู้กันอยู่ ฟังแล้วน่ากลัวและเสียงเหล่านี้มักจะเกิดในเวลากลางคืนเสียด้วย หลายคนบอกว่าที่จริงแล้วเป็นพวกหนูที่เข้าไปในฝ้าเพดานและออกหาอาหารในตอนกลางคืนเท่านั้น ไม่ใช่ตัวอะไรหรอก ทำให้ค่อยโล่งใจไปได้บ้าง

แต่ถ้าเป็นภาคพื้นดิน(รอบบริเวณบ้าน) ถ้าหนูตัวไหนแหยมเข้ามา เป็นต้องโดนเจ้าขุนตาน หมาประจำบ้าน สำเร็จโทษเสียจนจำร่างเดิมแทบไม่ได้เสียทุกรายไป ผู้เขียนจึงไม่ได้เห็นหนูเข้ามาเพ่นพ่านในบริเวณบ้านเลย

  เจ้าขุนตาน หมาประจำบ้าน

เรื่องที่จะเล่านี้ต้องเป็นเรื่องของหนูอย่างแน่นอน แต่เป็นหนูสัญชาติ กทม. ไม่ใช่หนูสัญชาติราชบุรีหรอก แต่ไม่ว่าที่ไหน ดูเหมือนว่าพวกมันจะแสนฉลาดและเจ้าเล่ห์ไปเสียทุกตัวทีเดียว

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากเออรี่รีไทร์จากงานราชการเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ครูแปบ ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เขียนก็ต้องมีอันจากบ้านที่ราชบุรีไปช่วยลูกชายเลี้ยงหลานที่กรุงเทพฯ บ้านที่พักอาศัยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้นอยู่ในหมู่บ้านที่ค่อนข้างใหญ่ และมีผู้คนอยู่กันอย่างหนาแน่น ซึ่งผู้เขียนคิดว่าประชากรหนูก็ต้องหนาแน่นเช่นเดียวกัน

ครูแปบมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณสามปีแล้ว โดยเดินทางกลับบ้านที่ราชบุรีในเย็นวันศุกร์และกลับกรุงเทพฯบ่ายวันอาทิตย์ เหตุการณ์ก็ปกติสุขมาเรื่อยๆ  เมื่อประมาณเดือนที่แล้วที่ครูแปบกลับบ้าน ครูแปบเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ตอนนี้ในหมู่บ้านมีหนูออกมาเพ่นพ่านตามท่อระบายน้ำหน้าบ้านเยอะแยะ

 คนในหมู่บ้านเขาพูดกันว่าเป็นหนูหนีน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว แล้วมาออกลูกออกหลานเต็มไปหมด เพื่อนบ้านหลายคนบอกครูแปบว่าที่บ้านพวกเขาต่างก็มีหนูแอบเข้ามาในบ้านกันทั้งนั้น  แต่โชคดีที่บ้านครูแปบยังไม่เคยมีหนูเข้ามาในบ้านเลย

แล้วตอนเช้าของวันหนึ่ง เมื่อครูแปบเข้าไปในครัวก็สังเกตเห็นว่าหน้าต่างมุ้งลวดบานที่อยู่ใกล้ชั้นวางของ เปิดแง้มอยู่ ตอนแรกครูแปบคิดว่าเป็นเพราะลมแรงเมื่อคืนเนื่องจากมีฝนตกหนัก แต่เมื่อสำรวจไปทั่วๆ ก็เห็นว่าของต่างๆบนชั้นวางของ เช่น ขวดซ้อส ขวดน้ำปลา  ต่างก็ล้มระเนระนาด

ที่พื้นห้องครัวพบว่ามีขี้หนูทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่ กระจัดกระจาย จึงสรุปได้ว่าเป็นหนูอย่างแน่นอน แต่ข้อสำคัญไม่รู้ว่ามันยังอยู่ในบ้านหรือออกไปแล้ว ครูแปบจึงเริ่มค้นหาไปตามซอกมุมต่างๆในห้องครัว ก็พบว่ามีหนูตัวหนึ่งแอบอยู่ที่ข้างถังแก้ส ครูแปบรีบเปิดประตูห้องครัวด้านหลังบ้านแล้วฉีดสเปรย์ยาฆ่าแมลงใส่เจ้าหนู มันจึงวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ครูแปบโล่งใจที่สามารถกำจัดหนูออกไปจากบ้านได้สำเร็จ

แต่ครูแปบก็โล่งใจได้ไม่นานเพราะวันต่อมาเมื่อครูแปบมองไปที่มุ้งลวดบานนั้น ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อพบว่ามุ้งลวดถูกกัดจนขาดเป็นโพรงใหญ่

   บานมุ้งลวดถูกหนูกัดเป็นรูใหญ่

  นอกจากนั้นตะแกรงที่ปิดท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำชั้นล่างยังเขยื้อนออกมาจนเห็นรูน้ำทิ้งได้ แสดงว่าตอนนี้เจ้าหนูมีช่องทางเข้ามาในบ้านได้หลายช่องทาง  ครูแปบรีบค้นตามซอกซอยในบ้าน แต่ก็ไม่พบหนูแม้แต่ตัวเดียว ครูแปบรีบจัดการปิดโพรงที่หน้าต่างมุ้งลวด และปิดรูน้ำทิ้งในห้องน้ำไว้ก่อนโดยด่วน

  ตะแกรงปิดท่อน้ำทิ้งถูกเขยื้อนออก


แม้จะหาหนูในบ้านไม่พบ แต่ครูแปบก็มั่นใจว่ายังมีหนูหลบซ่อนอยู่ในบ้านเพราะพบขี้หนูตามมุมต่างๆ ของห้องครัว  ครูแปบจึงสั่งการให้ลูกชายรีบออกไปซื้อยาฆ่าหนูที่ร้านปากซอยมาโดยด่วน ยาฆ่าหนูที่ซื้อมาเขาทำเป็นเม็ดๆ สีชมพูสดใส ที่ซองยาบอกไว้ด้วยว่า ซากของหนูที่กินยานี้จะไม่เน่าเปื่อย แต่จะค่อยๆแห้งไปเอง ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น

ั่นั่นอะไรสีสดใสคล้ายอาหาร
ฟ้าประทานมาหรือไรให้ฉงน
ค่อยเมียงมองเข้าไปไกล้ใจกังวล
เป็นอาหารให้ได้ยลสนใจจริง

แต่ช้าก่อนฉุกคิดเคยพบเห็น
อาหารเป็นยาพิษได้ให้หวาดเสียว
ถึงขั้นม้วยมรณังมาแล้วเชียว
บอกนิดเดียวฉันไม่กินให้ดิ้นตาย  เฮอะ .. เฮอะ  (อย่ามาหลอกกันเสียให้ยากเลย)

   ยากำจัดหนู

ครูแปบจัดการเทเม็ดยาลงในชามพลาสติกพร้อมทั้งนับจำนวนเม็ดยาไว้ด้วย จำนวน  10 เม็ด เพื่อที่จะได้รู้ว่าหนูได้กินไปกี่เม็ด แล้ววางชามไว้ที่พื้นห้องครัวในคืนนั้น

วันรุ่งขึ้นครูแปบรีบไปดูผลงานว่าสำเร็จหรือไม่ ปรากฏว่ายาฆ่าหนูยังคงเหลืออยู่ทั้ง 10 เม็ด พื้นครัวก็ยังมีขี้หนูเกลื่อนอยู่เช่นเดิม ครูแปบพูดกับลูกชายว่าหนูมันช่างฉลาดเสียเหลือเกิน มันรู้ว่าอาหารพวกนี้เป็นยาพิษแน่ๆเลย มันจึงไม่กิน

เรื่องที่มีหนูเข้ามาในบ้านนี้ สร้างความรำคาญใจให้ครูแปบไม่ใช่น้อย เพราะหนูนอกจากจะนำเชื้อโรคมาให้แล้ว ยังจะเข้ามากัดทำลายข้าวของในบ้านได้ ตอนนี้ครูแปบเริ่มคิดเห็นภาพไปว่ามันมาออกลูกออกหลานเต็มบ้านไปหมด จะทำอย่างไรกันดี

ขณะที่ครูแปบกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ก็เห็นลูกชายหิ้วตะกร้าโปร่งๆ เข้ามาในบ้าน สิ่งที่อยู่ในตะกร้าคือแมวลายขาวดำตัวหนึ่ง ลูกชายบอกว่ามีวิธีเดียวที่จะกำจัดหนูได้คือเราต้องเลี้ยงแมว ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลเพราะตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่พบร่องรอยของหนูอีกเลย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าได้ดูถูกหนูตัวเล็กๆเป็นอันขาด ขนาดราชสีห์ หนูก็ยังเคยช่วยชีวิตมาแล้ว  สิ่งเดียวที่หนูยอมแพ้น่าจะเป็นแมวนี่เอง.

. ปลาทอง  22  ตุลาคม  2555

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้674
เมื่อวานนี้594
สัปดาห์นี้2289
เดือนนี้8547
ทั้งหมด1327881

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online