นายไพบูลย์ ที่บ้านสวน ๑
เมื่อตอนที่เริ่มต้นจะปลูกบ้านในที่ดินของเราที่ซื้อมานี้ ก็จำเป็นจะต้องมีคนมาคอยเฝ้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุก่อสร้างต่างๆที่จะต้องทำการก่อสร้าง
เมื่อนายบูนมาถามผมว่าจะให้เขาทำงานอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ ผมก็มาปรึกษากับคนในบ้านแล้วเห็นพ้องต้องกันว่า เราก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีคนเฝ้าของต่างๆเหล่านี้ด้วย
ผมจึงได้มาบอกนายบูนว่า เราจะให้เขาทำงานอยู่กับเราจนกว่าบ้านจะปลูกเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ต่อจากนั้นค่อยมาตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง นายบูนก็เห็นดีด้วย นายบูนไม่ใช่คนพูดมาก จึงเห็นว่าเขาดีใจเป็นอย่างมากจนออกนอกหน้าเลยทีเดียว
ที่ตรงที่เราซื้อมาแล้วจะสร้างบ้านนี้ ที่จริงก็มีบ้านอยู่แล้วหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้สองชั้น ขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กนัก สร้างอยู่ค่อนข้างจะติดถนนหน้าบ้านเลยทีเดียว และบ้านไม้หลังนี้นี่เองที่เจ้าของเดิมเขาให้นายบูนพักอยู่ คอยเฝ้าที่ของเขา และนายบูนก็พักอยู่ที่บ้านหลังนี้ นอนที่นี่ กลางวันก็อยู่ที่นี่ นอกจากบางวันจะกลับไปบ้านบ้าง เพราะว่าบ้านนายบูนก็อยู่ไม่ไกลจากที่ตรงนี้มากนัก นายบูนขี่รถเครื่องเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว
เมื่อติดต่อกับช่างที่จะมาปลูกบ้านได้แล้ว ก็นัดแนะวันลงมือปลูกกันเลยทีเดียว เริ่มจากสั่งไม้และสังกะสี ตะปู มาก่อน เพื่อมาปลูกเป็นเพิงเก็บของ และเป็นที่พักของนายบูนคนเฝ้าของด้วย ช่างรับเหมามีลูกน้องมาหลายคน มารุมปลูกเพิงไม่นานก็เสร็จ พอที่จะเก็บของได้แล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการสั่งของเข้ามาเก็บเอาไว้ในเพิงนี้ก่อน ตามความจำเป็นที่จะใช้ก่อนและหลังตามลำดับของการสร้างบ้าน
บ้านไม้สองชั้นที่อยู่ติดถนนหน้าบ้านนั้น ก็ต้องจำเป็นต้องรื้อออก ทีแรกก็คิดเสียดายอยู่ แต่ในเมื่อจะปลูกบ้านทั้งที ก็ต้องปลูกให้ได้สัดส่วนกับที่ดินด้วย โดยการปลูกหลังใหม่นี้จะให้ห่างจากถนนใหญ่ 50 เมตรหรือกว่านั้น เพื่อว่าหวังจะให้เป็นลานหน้าโล่งๆ
พวกช่างรับเหมาก็รุมรื้อบ้านไม้หลังนั้นไป ไม่นานนักก็รื้อจนหมดทั้งหลัง ไม้ กระเบื้อง และอื่นๆที่รื้อมาแล้วก็เก็บกองเอาไว้เป็นสัดส่วน รอที่จะขนย้ายไปที่อื่นๆต่อไป
นายบูนก็ปฏิบัติงานมาด้วยดี กลางวันก็เดินดู เช็คจำนวน วัสดุต่างๆ เช่นไม้ เหล็กเส้น ปูนซิเมนต์ (ถุง) และสิ่งต่างๆที่ใช้ในการก่อสร้าง ที่ร้านค้าวัสดุมาส่ง และคอยบอกให้คนงานที่มาส่งเอาไปกองไว้ในเพิงให้เป็นระเบียบ
ตอนกลางคืนก็นอนเฝ้าอยู่ที่เพิงหลังนี้ โดยการกางมุ้งกันยุงมากัด ซึ่งก็เป็นที่พอใจของนายบูนเป็นอย่างมาก
ในตอนที่กำลังปลูกบ้านนี้ ผมและครอบครัวยังไม่ได้มาอยู่กัน คงให้นายบูนเฝ้าดูแลอยู่คนเดียว ซึ่งในตอนเย็นๆหรือมีเวลาว่างก็จะแวะเข้ามาดูบ้างเท่านั้น
นายบูนก็ทำหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็ง เนื่องจากนายบูนเคยประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างมาก่อน (ดังที่เล่าในตอนแรกแล้ว) จึงได้รู้เรื่องในทางนี้ดี
การปลูกบ้านดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบสามเดือน บ้านจึงสำเร็จเรียบร้อย แม้ว่าจะช้าไปบ้าง การปลูกบ้านก็เป็นอย่างนี้ต้องมีอุปสรรคต่างๆเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
นายบูนขยันขันแข็งในการทำงาน ดูแลสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีเป็นที่ไว้ใจของพวกผม เมื่อบ้านเสร็จแล้ว พวกผมจึงได้ฤกษ์และย้ายเข้ามาอยู่ในบ้างหลังนี้ และคิดกันในเรื่องของนายบูนว่า ที่จริงเราก็ควรจะจ้างนายบูนอยู่ต่อไป ให้เป็นผู้ดูแล บ้านและต้นไม้ในสวนของเราเสียเลย เป็นการช่วยเหลือนายบูนด้วย เพราะว่าถ้านายบูนไม่ได้อยู่กับเราแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่ไหน
ลักษณะส่วนตัวของนายบูนนี้ แม้ว่าอายุจะยังไม่มากเท่าไร ในตอนนั้นอายุก็ยังไม่ถึง ๕๐ ปี แต่ก็มีโรคประจำตัว คือการปวดขาและปวดตัวอยู่เสมอๆ ซึ่งผมเห็นนายบูนต้องกินยาแก้ปวดอยู่เป็นประจำทุกวันไม่ได้ขาดเลย
แม้ว่าร่างกายจะไม่แข็งแรงแม้ว่าจะมีโรคประจำตัว แต่นายบูนเป็นซื่อสัตย์อย่างหาใครเปรียบไม่ได้ พูดอะไรก็เชื่อฟังอยู่เสมอๆ เท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเถียงหรือทำให้เรารำคาญใจเลย
เมื่อคิดดังนั้น ในเช้าวันหนึ่งผมเรียกนายบูนมาถามว่า
“นี่บูน เมื่อบ้านปลูกเสร็จแล้ว ยังอยากที่จะทำงานอยู่กับเราหรือเปล่า”
“ผมก็อยากถามคุณลุงเหมือนกันนะครับ ผมอยากอยู่กับคุณลุงที่นี่ครับ” นายบูนตอบสั้นๆตามประสาคนที่ไม่ช่างพูด
“ก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เมื่อนายบูนอยากทำงานที่นี่ ลุงก็จะรับนายบูนเอาไว้ให้มาทำงานที่นี่ด้วยกัน ซึ่งงานที่นี่ก็คิดว่าไม่มีอะไรมาก ดูแลรดน้ำต้นไม้ในสวน และมีอย่างอื่นอีกไม่มากนัก คิดว่านายบูนคงทำได้นะ และจะมาทำงานในตอนเช้า เสร็จงานแล้วในตอนเย็นก็กลับไปบ้านได้ ไม่ต้องมาค้างที่นี่ ” ผมบอกนายบูน ซึ่งงานต่างๆเหล่านี้ก็เหมือนๆกับที่นายบูนอยู่กับเจ้าของที่คนเก่านั่นเอง
“ได้ครับ ผมจะดูแลเป็นอย่างดี ถ้าผมได้อยู่ที่นี่แล้ว คุณลุงก็คอยดูผมก็แล้วกัน”
“ดีแล้ว ” ผมบอก “แล้วนายบูนได้รับเงินเดือนจากคนเก่าเขาเท่าไรล่ะ”
นายบูนบอกผม ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเงินมากมายอะไร ผมจึงบอกว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน จากเงินเดือนเดิมที่นายบูนได้รับ ลุงจะเพิ่มให้อีกอาทิตย์ละ ๒๐๐ บาท เป็นหนึ่งเดือนก็จะเพิ่มให้จากที่เคยรับอยู่เดิมเดือนละ ๘๐๐ บาท “
นายบูนดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อได้ยินผมบอก “ขอบคุณคุณลุงมากครับ ผมจะปฏิบัติงานให้ดีที่สุด ตั้งแต่วันนี้เลยครับ ”
นับจากวันนั้นมานายบูนก็ทำงานในสวนของผมอย่างขยันขันแข็ง และมีความสุขกับการทำงานยิ่งนัก
นายแก้ว ผู้เขียน ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘