หาดทรายของเรา

   ตอนเย็นๆเด็กตลาดเจ็ดเสมียนส่วนหนึ่ง จะนั่งเรือจ้างข้ามฝั่งไปยังหาดทรายขาวสอาดที่อยู่เป็นแนวยาวฝั่งตรงกันข้ามกับตลาดเจ็ดเสมียน (ถ้าท่านที่เพิ่งเข้ามาจะยังไม่ทราบว่าที่เจ็ดเสมียนก็มีหาดทรายด้วยหรือนี่)

  ยิ่งเป็นเวลาเย็นมากเข้า ชาวตลาดเจ็ดเสมียนที่เสร็จจากภาระกิจการงาน ก็มักจะข้ามไปยังหาดทรายฝั่งตรงกันข้าม เพื่อไปเดินเล่นออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์กันขวักไขว่

  บรรยากาศเช่นนี้ผมมิได้จินตนาการเอาเอง แบบนักเขียนทั่วๆไปครับ หาดทรายนี้มีจริง เมื่อผมยังเด็กผมเคยไปขุดทรายเป็นอุโมงค์ลึก แล้วเอาทางมะพร้าว ต้นตะไคร้หางนาคที่ขึ้นทั่วไปในบริเวณนั้น พร้อมทั้งไปหักกิ่งไม้อื่นๆมา ปิดปากหลุมอุโมงค์ พรางตาข้าศึกเอาไว้

  ที่นี่เปรียบเสมือน "เซฟเฮ้าส์"ของกลุ่มผม  (ู้บำบัดทุกข์บำรุงสุขของตลาดเจ็ดเสมียนแบบลับๆ ตอนนั้นบ้าอินทรีย์แดง ของเศก ดุสิต) ผมมาประชุมในเซฟเฮาส์ของผมบ่อยๆ โดยมีผมเป็นหัวหน้าครับ

 าพเด็กๆตลาดเจ็ดเสมียนนั่งเรือจ้าง ข้ามไปเดินเล่นที่หาดทรายนี้ ถ่ายมานานพอสมควร อายุของภาพก็คำนวนจากเด็กชายที่นั่งริมขวาสุดก็แล้วกันครับ เขาคือเด็กชาย วรรโณ คุ้มประวัติ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของนายจำเนียร คุ้มประวัติ ร้านถ่ายรูปตลาดเจ็ดเสมียน ปัจจุบันน่าจะอายุเกือบ ๕๐ ปี แล้วมั๊ง

  เด็กชายวรรโณ ในปัจจุบันนี้ รับราชการอยู่ที่กระทรวงพัฒนาสังคมแห่งชาติ สอบเป็นระดับ ๘ ไม่ได้สักที ได้ข่าวว่าปีนี้ได้แน่นอนครับ ข่าวจากสายลับของผมประจำเจ็ดเสมียนว่าอย่างนั้น ก็ต้องเชื่อเขาครับ.

ากเรือจ้างแล้วก็มาเดินเล่น นั่งเล่นบนหาดทราย เด็กเจ็ดเสมียนในตอนนั้นมีความสุขซะจริงๆ สามสาวนี้คือ จากซ้าย คุณนวลปรางค์ คุ้มประวัติ, คุณอารีย์ สุวรรณมัจฉา และขวาสุดคุณอาภรณ์ ลักษิตานนท์ เด็กตลาดเจ็ดเสมียนของแท้ทั้ง ๓ คน ต่อมาได้รับราชการระดับสูงทั้ง ๓ คน.

  ิดถึงหาดทรายที่เจ็ดเสมียนแล้วเศร้าใจ มันหายไปไหนหมดได้อย่างไร ? เขียนกลอนเล่นสักกลอนหนึ่ง ดีกว่าอยู่เปล่าๆครับ.

 

ที่ดินแดนแห่งนี้มีตลาด
เป็นขนาดไม่ใหญ่หลายคนสน
ติดลำน้ำแม่กลองไหลเอื่อยวน
ทุกๆคนมีสุขทุกข์ไม่มี

ในอดีตที่นี่ฝั่งตรงข้าม
มีหาดทรายสวยงามน่าเดินเล่น
เด็กเจ็ดเหมียนหลายคนในยามเย็น
ข้ามกันไปเดินเล่นบนหาดทราย

ถิ่นเธออยู่ถึงบ้านพงสวาย
ยังมาได้เดินเล่นอยู่กับฉัน
เป็นอย่างนี้ตอนเย็นแทบทุกวัน
เธอและฉันชื่นนักรักกันจริง

สัญญากันเอาไว้จะเป็นคู่
แนบใจอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน
ตราบใดที่เจ็ดเหมียนยังมีทราย
รักของเราอยู่ได้อย่างยืนยง

คำสัญญาของเราที่เข้าหู
เราได้รู้สองคนบนหาดฝัน
ตราบใดที่เม็ดทรายไม่มีวัน
บนหาดทรายนี้นั้นจะหายไป

อันสายน้ำสายลมและสองเรา
เคยเดินเคล้าคลอเคลียย้ำบอกให้
ตราบใดที่เจ็ดเหมียนไม่สิ้นทราย
จะรักกันไม่หน่ายทุกเวลา

ไม่นานนักอยู่มาหาดทรายหาย
เป็นไปได้อย่างไรกันเล่าหนอ
หาดทรายที่เดินเล่นเพลินพะนอ
เด็กเจ็ดเหมียนนั้นหนอเศร้าในใจ

ใครกันนะเอาหาดของเราไป
หมดสิ้นทรายเอาไปไม่เหลือหรอ
สาวคนรักจากไปไม่รีรอ
ตามงอนง้ออย่างไรไม่คืนมา.. (เพราะว่าไม่มีหาดทรายให้เดินเล่นอีกแล้ว)

สุริยะ สิงหา ๔ ต.ค. ๕๕

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้32
เมื่อวานนี้370
สัปดาห์นี้1152
เดือนนี้3766
ทั้งหมด1395530

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online