อาลัย คุณสุรพงษ์ แววทอง (โห้)
สุรพงษ์ แววทอง (โห้ คนกลาง)
ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์จากคุณ มยุรี วิทยาลิขิต (เตียง) เมื่อประมาณ ๔ โมงเช้าของวันนี้เอง (๙ มกราคม ๒๕๕๔) คุณมยุรีบอกผู้เขียนว่า “เฮียเก้ว จินตนาให้โทรมาบอกว่า เฮียโห้ ตายเสียแล้ว”
แล้วก็คุยกับผู้เขียนอีกสักครู่หนึ่ง ซึ่งคุณมยุรีก็ไม่ได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ในตอนหลังเธอจึงบอกผู้เขียนว่า “เฮียเก้วโทรไปหาจินตนาดูสิ เตียงบอกเบอร์โทรศัพท์ให้ ” ผู้เขียนวางโทรศัพท์จากคุณมยุรีแล้ว ก็รีบโทรไปหาคุณจินตนาตามหมายเลขที่คุณเตียงบอกเลยทีเดียว และขอบอกเสียก่อนว่า คุณจินตนานี้เป็นน้องสาวของคุณสุรพงษ์ (โห้) และเธอยังเป็นเพื่อนเด็กตลาดเจ็ดเสมียน รุ่นเดียวกับน้องสาวของผู้เขียน คือคุณอารีย์ สุวรรณมัจฉา รวมทั้งคุณบุปผา ลักษิตานนท์ ที่ในตอนนี้พำนักอยู่ที่เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาด้วย
คุณจินตนารับสายแล้ว ผู้เขียนก็ถามรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องที่นายสุรพงษ์ แววทอง เจ็บป่วย ต่อมาได้เสียชีวิต จนกระทั่งในการจัดการงานศพครั้งนี้ คุยกันสักครู่หนึ่งในตอนสุดท้ายคุณจินตนาบอกว่า
“ ในตอนเย็นวันนี้อยากให้เฮียเก้วไป รดน้ำศพเฮียโห้สักหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาก จะได้ไปดูหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ถ้าเฮียไม่สะดวกก็ไม่ต้องไปก็ได้ เพราะเรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป ”
ผู้เขียนบอกว่าขอเอาไว้ไปในวันเผาเถอะ จะชวนอู๊ด (นายโอฬาร ลักษิตานนท์) เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งไปด้วย
คุณสุรพงษ์ แววทอง เกิดที่ตลาดเจ็ดเสมียน จึงเป็นเด็กเจ็ดเสมียนเหมือนเพื่อนๆรุ่นเดียวกันอีกหลายคนรวมทั้งผู้เขียนด้วย เขามีชื่อเล่นว่า โห้ พ่อแม่พี่น้องญาติๆและเพื่อนฝูง จึงเรียกชื่อเขาตลอดมาว่า โห้ และต่อจากนี้ไปผู้เขียนจะเรียกเขาว่า โห้ นะครับ
โห้เป็นลูกชายคนแรก หรืออีกทีหนึ่งคือเป็นลูกคนที่ ๓ ของคุณพ่อสงวน และคุณแม่กิมฮวย แววทอง (ผักกาดหวานแม่กิมฮวย เชลชวนชิม เจ้าแรกในตลาดเจ็ดเสมียน) โดยคนแรกหรือพี่สาวคนแรกของนายโห้นั้นคือ คุณอำนวย แววทอง หรือที่ใครๆเรียกกันว่า เจ๊ติ๋ว นั่นแหละครับ ส่วนพี่สาวของนายโห้อีกคนหนึ่งนั้นคือ เจ๊ตุ้ม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เจ๊ตุ้ม ได้เสียชีวิตไปเสียก่อนเมื่อนานมาแล้ว โดยที่ยังไม่ถึงเวลาที่สมควรเลย
คุณสุรพงษ์ แววทอง (โห้ คนที่ ๖ จากซ้าย) เมื่อสมัยเด็กๆมีความสุขกับเพื่อนๆที่เป็นเด็กตลาดเจ็ดเสมียนด้วยกัน เขาคนหนึ่งละที่อยู่ในกลุ่ม เด็กตลาดเจ็ดเสมียนไม่ใส่เสื้อ (มีผู้เขียนอยู่ในกลุ่มด้วย)
พวกเราเหล่าลูกตลาดเจ็ดเสมียน แห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง คุณสุรพงษ์ (โห้) คนยืนริมขวาสุด (ผู้เขียนยืนหลังคนที่ ๒ จากซ้าย)
นายโห้เมื่อสมัยเป็นเด็กๆที่อยู่ที่เจ็ดเสมียนนั้น เป็นเด็กที่ไม่มีนิสัยเกเร รักเพื่อนฝูง ไม่พูดมาก เมื่อเรียนจบที่โรงเรียนวัดเจ็ดเสมียนแล้ว นายโห้ ก็ไปเรียนต่อที่ โรงเรียนมัธยมวัดสนามชัย จนจบแล้วนายโห้ก็ไม่ได้เรียนต่อไปอีก เพราะว่าคุณพ่อสงวนและคุณแม่กิมฮวย มองเห็นแล้วว่าลักษณะอย่างนายโห้นี้ เหมาะสมที่จะเดินไปในทางสายอาชีพจะดีที่สุด
ดังนั้นพ่อแม่ของนายโห้ จึงได้นำนายโห้ ไปฝึกงานที่โรงกลึงแห่งหนึ่งที่ ในตัวจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโรงกลึงของนายงั้ง ซึ่งเป็นญาติสนิทกัน นับจากนั้นมานายโห้ก็ตั้งอกตั้งใจฝึกงานที่โรงกลึงของนายงั้งนี้ จนกระทั่งมีความชำนาญในงานประเภทนี้ยิ่งนัก
ขอรวบรัดเอาว่านายโห้ฝึกงานและทำงานที่โรงกลึงแห่งนี้ ด้วยความมานะอดทนต่อมาอีกหลายปี เมื่อมีทุนรอนพอสมควรแล้วจึงได้ขอแยกตัวออกมาตั้งโรงกลึง และอู่ซ่อมรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่ริมถนนประชาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นถนนสายใหญ่ ชื่อว่า อู่พงษ์ไพโรจน์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ๗๐๐๐๐ กิจการของเขาก็เจริญรุ่งเรืองมาจนปัจจุบันนี้
เมื่อไม่นานมานี้นายโห้ มีอาการไม่สบายภายในร่างกาย จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่างๆเรื่อยๆมา ก็ไม่หายขาดจากอาการนี้ จนกระทั่งสุดท้ายได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล ศิริราช จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อ เช้าของวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๔ รวมอายุได้ประมาณ ๖๗ ปี
จึงขอเรียนให้ญาติสนิท มิตรสหาย และท่านที่เคารพนับถือทราบทั่วๆกันว่า ในวันนี้ ( ๙ มกราคม ๒๕๕๔ ) จะมีการรดน้ำศพนายโห้ที่ วัดเขาวัง ราชบุรี ประมาณเวลาบ่าย ๓ โมงเป็นต้นไป ส่วนศพก็จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาวังนี้ ถึงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นวันสุดท้าย และก็จะทำการ ฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๐๐ น. (๔ โมงเย็น)
จึงขอเรียนเชิญท่านที่เป็นญาติสนิท เพื่อนฝูงทั้งหลาย ตลอดจนท่านที่เคยรู้จัก ไปเป็นเกียรติให้แก่คุณ สุรพงษ์ แววทอง เป็นครั้งสุดท้ายโดยพร้อมเพรียงกันด้วย
คุณมะปราง คุณสุรพงษ์ เมื่อครั้งได้พบความรักและได้แต่งงานกัน
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นเพื่อนที่สนิทมากในสมัยหนึ่งของนายโห้ ก็ขอแสดงความเสียใจต่อคุณมะปราง และบุตรสาวทั้งสองคน ตลอดจนญาติพี่น้องและทุกๆคนในครอบครัวของนายโห้มา ณ ที่นี้ด้วย
นายแก้ว ๙ มกราคม ๒๕๕๔