ไปเชียงใหม่ ๒


    เราวิ่งไปตามถนนสายเมนใหญ่ ที่ใครๆก็เรียกว่า “ถนนซูปเปอร์”  ที่รถทุกๆคันจะขึ้นเหนือก็จะต้องใช้ถนนสายนี้ วิ่งไปด้วยความยากลำบากรถกระเทือนไปทั้งคัน

   เพราะถนนเสียหายอย่างมากยาวเป็นร้อยกิโลเมตร รถเขย่าเสียเสียดท้องไปหมด ทั้งๆที่นั่งรถเก๋งที่มีระบบกันกระเทือน ไม่ใช่นั่งเกวียนวิ่งไปตามทุ่งนา

      ผ่านพ้นถนนที่เสียหายมากก็เข้าเขตจังหวัดตากพอดี แวะเข้าปั๊มน้ำมันเติมน้ำมัน และหาซื้อน้ำกินด้วย  ต่อจากนี้ไปคิดว่าจากจังหวัดตากไปจังหวัดลำปางถนนก็คงจะดีขึ้น ถ้าหากถนนเสียตลอดสายอย่างที่ผ่านมา คือระยะนครสวรรค์ถึงจังหวัดตากที่ผ่านมาแล้วนั้น รถคันนี้ช่วงล่างก็คงจะพังหมดกลับไปบ้านต้องเข้าอู่ซ่อมแน่ๆ

    ระยะทางจากจังหวัดตากถึงจังหวัดลำปางนั้น เป็นระยะทางที่ยาวมากกว่าระยะอื่นๆ คือประมาณ ๑๗๐ กิโลเมตร รถอย่างเราหรือรถทั่วๆไปก็คงวิ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงหรือกว่านั้นนิดหน่อย เมื่อผ่านจังหวัดตากมาแล้ว ถนนก็ค่อยดีขึ้น มีเสียบ้างก็เป็นระยะ ทำให้เราทำความเร็วได้มากขึ้นผ่านเถิน ลี้  แล้วก็จะเข้าจังหวัดลำปาง

     อีกประมาณ สิบกว่ากิโลเมตรไม่เกินยี่สิบกิโลเมตร ก็จะถึงตัวจังหวัดลำปาง ถ้าเราไม่มีธุระอะไรที่ลำปางแล้วละก็  เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดอำเภอเกาะคาเสียเลยจะดีกว่า  นักขับรถขึ้นเชียงใหม่ทุกคนจะรู้ว่า เส้นทางเข้าอำเภอเกาะคาทะลุอำเภอห้างฉัตรนี้ เป็นทางลัดที่ไม่ต้องเข้าจังหวัดลำปาง ย่นระยะทางได้หลายสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว

       และอีกอย่างหนึ่งก็จะได้ไปพักรถกันที่ บริเวณวัดพระธาตุ ลำปางหลวง ด้วยเพราะว่าทางเส้นนี้จะผ่านวัดดังกล่าวพอดี ดังนั้นประมาณ ๕ โมงเย็นเราจึงได้พักรถ เป็นครั้งแรกที่บริเวณวัดพระธาตุลำปางหลวง  โดยผมบอกกับ โหน่งลูกชายว่า เราควรจะพักรถกันสัก ๒๐ นาที เพราะว่าเราวิ่งรถกันมาหลายชั่วโมงแล้ว ตามหลักการขับรถทางไกลนั้น ประมาณ ๒ ชั่วโมงก็ให้หยุดพักรถเสียครั้งหนึ่ง ลงจากรถเดินไปยืดแข้งยืดขาสักพักหนึ่ง

     แล้วจึงขับไปต่อไปอีก ทั้งนี้ก็เพื่อจะให้คลายความง่วง เส้นที่ตึงๆเพราะเกร็งมาตลอดจะได้คลายเสียบ้าง ที่เราขับกับมาหลายชั่วโมงไม่ได้พักเลยนั้น ก็เพราะว่ากลัวว่าจะถึงเชียงใหม่มืดค่ำนั่นเอง ถ้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่มืดค่ำแล้ว ก็จะทำให้ลำบากในการขับรถมาก นานๆเรามากันทีทำให้ไม่ค่อยจะคุ้นทางในตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก และที่เชียงใหม่นั้นก็เหมือนกับกรุงเทพฯ รถมากเหลือเกิน

 ด้านหน้าของวัดพระธาตุลำปางหลวงจะอยู่ติดกับถนนเลยทีเดียว

       ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนั้น ในลานจอดรถตรงข้ามกับองค์พระธาตุ ในเวลาเย็นแล้วอย่างนี้ก็เงียบเหงา ยิ่งไม่ใช่เทศกาลและตรงกับวันหยุดแล้ว จึงไม่มีคนและนักท่องเที่ยวเลย พวกเขาคงจะออกจากที่นี่และเข้าเชียงใหม่กันหมดแล้ว นี่เย็นแล้วทางวัดก็ปิดแล้ว เราเลยคุยกันว่าขากลับค่อยมาแวะกันดีกว่า จะได้ไหว้พระธาตุและปิดทองพระเจ้าแก้วด้วย ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนี้ ผมไปเชียงใหม่ทุกครั้งก็จะมาพักรถที่นี่ บางครั้งถ้ามาไม่รีบร้อนมากนัก ก็จะขึ้นไปไหว้พระด้วยหรือถ้าตอนขามาไม่ได้แวะ ก็จะแวะขากลับทุกครั้งไป  (ขากลับได้แวะและถ่ายรูปสวยๆมาให้ดูด้วย จะลงให้ดูเมื่อถึงตอนนั้น)

     เที่ยวนี้จึงได้ตกลงใจกันว่าจะมาแวะตอนขากลับ และตอนเย็นๆแล้วอย่างนี้ทางวัดก็ปิดแล้วขึ้นไปไหว้พระไม่ได้อยู่ดี  พักรถกันสัก ๒๐ นาทีเราก็เดินทางไปกันต่อ ถนนสายนี้จากปากทางเข้ามาคือ ตลาดเกาะคา เป็นถนนแคบๆ เหมือนกับว่าเราวิ่งผ่านชุมชนใหญ่ บ้านเรือนปลูกอยู่ติดกับถนนแน่นไปหมด
 แล้วทางก็คดเคี้ยวมากขับแบบเร็วๆไม่ได้ต้องค่อยๆไป ต้องระวังคนเดินถนน รถจักรยานยนต์ และรถจักรยานมากเป็นพิเศษ

      ผ่านวัดหลายวัดพักใหญ่ก็ทะลุถึงทางเชื่อม กับถนนสายใหญ่ซึ่งเป็นถนนสายเมน ที่มาจากลำปางถ้าเราไม่ลัดมาทางเกาะคาแล้ว เราก็ต้องวิ่งมาตามถนนสายนี้เช่นเดียวกัน เมื่อมาถึงถนนสายนี้แล้ว จึงเป็นการลัดออกมาห่างจากลำปาง หลายสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว

ด้านหน้าของกาดทุ่งเกวียน มองดูเรียบร้อยกว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนมาก ภาพปีที่แล้ว

       อีกไม่นานนักก็ถึง “กาดทุ่งเกวียน ” ซึ่งอยู่ทางขวามือมองเห็นรถทัวร์ รถส่วนตัวจอดกันอยู่แน่นแทบจะไม่มีที่จะจอด ซึ่งสถานที่นี้คนที่เคยผ่านไปทางเชียงใหม่ย่อมรู้จักกันดี เมื่อสมัยก่อนนั้นกว่าสิบปีมาแล้ว ตอนที่กลับจากเชียงใหม่ทุกครั้ง ผมมักจะจอดรถที่ตลาดนี้ทุกเที่ยว เพื่อพักรถและซื้อน้ำกิน ในตอนนั้นตลาดยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ ยังเป็นตลาดเล็กๆเป็นแหล่งที่ชาวบ้านชาวเขา จะไปหาของป่ามาขาย (ตอนขากลับจะเสนออีกครั้งหนึ่ง)

สภาพภายใน "กาดทุ่งเกวียน" คุณสาธรกำลังถ่าย วีดีโออยู่ จะเห็นเนื้อหมูป่าวางขายกันเกลื่อนเป็นหมูป่าที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ทั้งนั้น  ภาพนี้ถ่ายเมื่อปีที่แล้ว

         พวกผมในครั้งกระนั้นที่ผ่านมาก็จะแวะกันทุกเที่ยว ซื้อของฝากติดมือกลับไปฝากคนทางบ้าน  มาในปัจจุบันนี้ผมว่าของป่าแท้ๆคงจะไม่ค่อยมีเสียแล้ว คนที่ไปล่ามาคงจะโดนเจ้าหน้าที่จับไปติดคุกกันบ้าง จึงไม่ค่อยกล้าไปล่าสัตว์ป่าเอาออกมาขาย ที่เห็นมีก็จะมีแต่พวกของป่าปลอมเสียมากกว่า  เช่นเนื้อหมูป่าก็จะเป็นหมูป่าเลี้ยง เนื้อวัวเนื้อควายป่าก็จะเป็น เนื้อวัวควายตามบ้านนั่นแหละครับ

 

ภายในตลาดก็มีสภาพอย่างที่เห็นนี้  ภาพถ่ายเมื่อปีที่แล้ว

     ขอเล่าเรื่องตลาด  “กาดทุ่งเกวียน  “  กันคร่าวๆแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน เพราะว่าขาขึ้นไปเชียงใหม่อย่างนี้ไม่ค่อยได้แวะ และเที่ยวนี้ก็ไม่ได้แวะ เพราะว่าตลาดอยู่ทางขวามือและก็รีบด้วย เกือบ ๖ โมงแล้ว กลัวมืดเสียก่อนหน้าหนาวอย่างนี้มืดเร็วเสียด้วยซี เอาไว้ขากลับจะมาแวะซื้อของไปฝากทางบ้านเสียหน่อยแล้วจะถ่ายรูปมาให้ชมด้วย

      นับจากกาดทุ่งเกวียนเป็นต้นไป ก็จะเป็นการขึ้นเขาระยะนานพอสมควร ประมาณ ๒๘ กิโลเมตรเห็นจะได้จึงจะลงจากเขา ทีนี้ก็วิ่งทางเรียบจนถึงเชียงใหม่เลย เมื่อสมัยก่อนๆนั้นเมื่อขับรถไปเชียงใหม่ ก็จะเป็นห่วงตอนขึ้นเขา ข้ามเขานี้แหละ เพราะว่าก่อนที่ทางการจะปรับปรุงทางข้ามเขาช่วงนี้ให้ดีขึ้น ขับง่ายสะดวกสบาย เหมือนไม่ได้ขึ้นเขาเลยนั้น ในช่วงนี้นับว่าหวาดเสียวพอดูเหมือนกัน มีขึ้นๆลงๆ ลงมาแล้วเลี้ยวหักศอกขึ้นไปเลยทีเดียว ก็ต้องคนที่ขับจนชินแล้วเท่านั้นที่ไม่กลัวอะไร คนที่นานๆมาทีก็เสียวจนต้องขับไปอย่างช้าๆเพื่อความปลอดภัย

      ในปัจจุบันนี้ช่วงทางขึ้นเขาและทางที่รถวิ่งอยู่บนเขานี้ ไม่ค่อยรู้สึกว่ารถวิ่งอยู่บนเขาเท่าไร เป็นเพราะว่าเมื่อประมาณ ๕ – ๖ ปีก่อนนั้นในช่วงที่ทางการกำลังสร้างถนนสานเมนต่างๆ เช่นสายเหนือ สายไต้ สายอิสานให้เป็นถนนมีสองเส้นคู่ ไม่ต้องวิ่งสวน รอแซงนั้น

      เส้นทางสายลำปาง เชียงใหม่ก็ได้รับการสร้างทางคู่ด้วย พร้อมทั้งปรับปรุงทางบนเขาที่ผมพูดถึงนี้ให้เป็นถนนสายคู่ ไม่ต้องวิ่งสวนกันบนเขาอีกต่อไป และขยายทางใหญ่ขึ้นมาก รถวิ่งกันอย่างสบายๆขับช้าไปทางซ้าย ถ้ารถดีมีแรงก็ขับขวาไปเรื่อยๆ ถึงที่คับขันก็เบาๆให้กันบ้าง ถ้อยทีถ้อยอาศัยเราคนเดินทางด้วยกัน ไม่ต้องมาเอารัดเอาเปรียบอะไรกันนักหนา........

โปรดติดตามตอนต่อไป    ถ้าท่านต้องการอ่านตอนต่อไปเดี๋ยวนี้เลย คลิ๊กที่  เชียงใหม่ ๓    ครับ

 

นายแก้ว ผู้เขียน 

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้140
เมื่อวานนี้303
สัปดาห์นี้1530
เดือนนี้10777
ทั้งหมด1340661

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online