ไปเชียงใหม่ ๕ (ตอนจบ)

   เดินวนเวียนดูไร่ลำใยจนสมควรแก่เวลาแล้ว ผมก็บอกคุณหวานว่าเราต้องกลับกันแล้ว เพราะจะต้องไปกันอีกไกล คุณหวานว่าก็ดีเหมือนกันได้มาดูมาเห็นบ้างเท่านี้ก็ดีแล้ว

   ดังนั้นประมาณ ๑๐ โมงเช้าเราก็ออกจากไร่ลำใยของเรา ก่อนไปก็บอกนายหลงว่า ในปีหน้าถ้าถึงฤดูลำใยออกแล้วอาจจะมาอีก นายหลงได้ฟังแล้วก็หัวเราะชอบใจ คงคิดว่าจะมากันจริงๆรื้อ ..
    ออกจากเชียงใหม่เที่ยวกลับนี้ดีหน่อยบรรยากาศไม่มืดเหมือนขามา ได้นั่งรถดูบ้านเมืองทิวทัศน์ต่างๆของเชียงใหม่ ผ่านแยกสันกำแพง ผ่านสารภี จนรถมาติดไฟแดงตรงสี่แยกบ้านธิ สักพักก็ผ่านลำพูนไป จากนี้ไปรถก็ทำความเร็วขึ้นมาได้บ้าง เมื่อข้ามเขาดอยขุนตาลสักพักใหญ่ๆก็ลงจากเขาแล้วก็โผล่ถึงกาด (ตลาด) ทุ่งเกวียนพอดี 

    ผมได้เคยเอ่ยเรื่องกาดทุ่งเกวียนมาบ้างคร่าวๆก่อนหน้านี้ว่า รถที่ขึ้นลงภาคเหนือนี้เป็นส่วนใหญ่ก็จะต้องแวะที่กาดทุ่งเกวียนนี้ บ้างก็ซื้อของไปฝากญาติพี่น้องทางบ้าน บ้างก็แวะรับประทานอาหารเช้ากันที่นี่ บางคนก็ถือโอกาสเข้าห้องน้ำกันที่นี่ แล้วแต่จุดประสงค์ สรุปแล้วเป็นส่วนใหญ่คนเหล่านั้นต้องแวะที่นี่ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว

    เดิมทีเมื่อวานนี้ที่มาถึงเชียงใหม่ได้คุยกันว่า ในตอนเช้าของวันนี้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วก่อนที่จะไปดูไร่ลำใยของเรา เข้าไปในเมืองซื้อของไปฝากคนทางบ้านที่ตลาด วโรรส หรือตลาดต้นลำใยกันเสียก่อน แต่พอมาคิดอีกทีถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่อยากเข้าไปในเมืองเลย

    เพราะว่าเดี๋ยวนี้ที่ในตัวเมืองเชียงใหม่รถมากพอๆกับกรุงเทพฯแล้ว ถ้าขืนเข้าไปในเมืองจะเสียเวลามากและถ้าเข้าไปแถวตลาด วโรรส หรือตลาดต้นลำใยจะหาที่จอดรถไม่ได้เลย ยิ่งผู้ที่ไม่ค่อยได้เข้าเมืองเชียงใหม่ก็จะไม่รู้ด้วยว่า ที่จอดรถแบบเสียเงินนั้นอยู่ตรงไหน (แบบจอดธรรมดาไม่ต้องไปหาเลย)

ถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องนั่งรถประทาง ๒ แถวไปดีกว่าไม่แพง และไม่ต้องกลัวเรื่องที่จอดรถด้วย ภาพนี้เมื่อต้นปี ๒๕๕๑ ที่หน้าตลาดต้นลำใย คุณหวานเพิ่งเดินออกจากตลาดคุณสาธรขำอะไรก็ไม่รู้

   ถ้าจะซื้อของฝากหรือกินเองผ่านตลาดทุ่งเกวียน แวะไปซื้อที่นั่นดีกว่า ไม่เสียเวลาด้วยเพราะว่าเป็นทางผ่าน ของต่างๆมีครบสารพัดชนิดไม่แพ้ตลาดในเมืองเหมือนกัน ต้องการของกินของฝากมีครบหมด

  เราเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบริเวณตลาดทุ่งเกวียนแล้ว ก็เดินเข้าไปในตลาด คุณหวานบอกว่าจะซื้อของกันนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ต้องไปเดินดูอะไรมากเรามากันหลายเที่ยวแล้วมันก็เหมือนๆเดิมนั่นแหละ

 

ซื้อไส้อั่วที่ร้านอัมพร อร่อยพอใช้ได้ มาซื้อหลายครั้งแล้ว เจ้าของยิ้มแย้มแจ่มใสดี

ไส้อั่ว ๒ กิโลก็ ๔๘๐ บาทแล้วครับ ที่ร้านนี้นอกจากไส้อั่วแล้วยังมีของอีกหลายอย่าง เช่นประเภทแหนม

หมูยอ และแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม  (น้ำพริกหนุ่ม ผมไม่ซื้อกินเด็ดขาด ไม่อร่อยมันจืดๆ เละๆ แถมเผ็ดสุดๆเลยครับ) 

 

ซื้อของกินไปฝากญาติพี่น้องนิดหน่อย รวมแล้วหมดไปเกือบ ๑,๐๐๐ บาท

   ซื้อของฝากกันได้สองสามอย่างก็ออกเดินทางต่อ ขากลับนี้ตั้งใจว่าจะเข้าไปไหว้พระที่วัดพระธาตุลำปางหลวงด้วย เพราะว่าเมื่อตอนขามาก็เย็นแล้วไม่ได้ขึ้นไป ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนี้ผมกับคุณหวานมาเชียงใหม่กัน ก็จะต้องมาแวะที่วัดนี้ทุกเที่ยว แต่ โหน่ง นานๆมาทีจึงอยากเข้าไปเที่ยวที่วัดนี้ในเที่ยวนี้ด้วย

   ออกจากกาดทุ่งเกวียน ไม่นานนักวิ่งไปตามถนนที่จะเข้าไปในตัวเมืองลำปาง จะผ่านทางเข้าที่ทำการอำเภอห้างฉัตรก่อน ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือมีป้ายชี้บอกเข้าไป เลยไปสักหน่อยเรากลับรถตรงที่กลับรถแล้วก็เลี้ยวเข้าไปทางที่จะไปอำเภอเกาะคา ไม่นานนักก็ถึงวัดพระธาตุลำปางหลวง

   ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงในวันนั้นประดับธงทิวปลิวไสว ทางวัดได้จัดงานลอยกระทงในปีนี้นั่นเอง เมื่อสมัยก่อนที่ผมมาที่วัดนี้นั้น เอารถเข้ามาจอดที่หน้าวัดได้เลยลงจากรถแล้วเดินขึ้นวัดไปได้ใกล้ๆไม่เหนื่อย และที่หน้าวัดนี้นอกจากจะเอารถเข้ามาจอดได้เลยแล้ว ยังมีร้านขายอาหารและร้านขายของเก่าอยู่สองสามร้าน

   สำหรับร้านขายของเก่านั้นเจ้าของเป็นคนมีอายุมากแล้ว พวกผมไปแวะกันทุกเที่ยวก็ไปคุยกับแกทุกเที่ยว จนรู้จักสนิทสนมกันดี เมื่อทางวัดไม่ให้มาจอดรถและตั้งร้านค้าต่างๆแล้ว ผมก็ไม่ทราบว่าแกได้ย้ายร้านไปอยู่เสียที่ไหน

 

สถานที่จอดรถใหม่ของวัดพระธาตุลำปางหลวง อยู่ตรงหน้าวัดนั่นเอง แต่เดินไกลไปหน่อย

         ไม่นานมานี้ทางวัดได้จัดสถานที่จอดรถเสียใหม่ เทปูนซิเมนต์ สะอาดสะอ้าน อยู่ที่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัด ลานจอดรถนี้ทำเสียอย่างดีขีดเส้นให้รถจอดกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีตำรวจมาดูแลความปลอดภัยต่างๆให้แก่นักท่องเที่ยว และในบริเวณเดียวกันนี้ร้านค้าต่างๆก็มาอยู่ที่นี่ด้วย มองดูแล้วก็ดีเป็นระเบียบเรียบร้อยดีกว่าเดิม เสียแต่ว่าไกลจากวัดไปหน่อยเท่านั้นเอง

   หาที่จอดรถกันได้แล้วก็เดินไปที่วัด สถานที่จอดรถอยู่ห่างจากตัววัดไปหน่อย แดดร้อนจัดอย่างนี้เล่นเอาเหนื่อยเหงื่อตกเหมือนกัน เราขึ้นวัดทางด้านข้างซ้ายที่มีรูปปั้นพระสังกัจจายน์ อ้วนๆองค์ใหญ่และมีศาลเจ้าแม่กวนอิมอยู่ตรงข้างบันไดทางขึ้นนั้น

เดินผ่านท่านทีไรก็ไหว้ท่านทุกครั้ง อธิษฐานว่าขอให้ร่ำรวยและอ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนท่านด้วยเถอะ

   ที่เราขึ้นทางนี้ก็ต้องการจะไปไหว้พระเจ้าแก้ว เสียก่อน เสร็จแล้วก็จะย้อนเข้าไปภายในที่พระธาตุตั้งอยู่ แวะซื้อดอกไม้ที่หน้าวิหารพระเจ้าแก้วเสียก่อน คนที่ขายดอกไม้บอกว่า ในตอนนี้เป็นเทศกาลลอยกระทง เขาจึงอัญเชิญพระเจ้าแก้วไปตั้งอยู่ที่ ศาลาใหญ่ด้านหน้าแล้ว

 

ซื้อดอกไม้แล้วขอคุณหวานถ่ายรูปไว้สักรูปหนึ่ง ดังที่เห็นนี้

อธิษฐานว่า ขอให้เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย

       เมื่อผมซื้อดอกไม้แล้วก็เลยต้องเข้าไปไหว้ในศาลา ที่ประดิษฐานอยู่ประจำของพระเจ้าแก้ว ถึงแม้ว่าพระเจ้าแก้วจะย้ายไปอยู่ข้างนอกแล้วชั่วคราว เสร็จแล้วจึงเดินออกมาข้างนอกไปตามกำแพงของวัดเข้าประตูด้านข้างไป

         ข้างในกำแพงนั้นมีคนมากเหมือนกันเดินกันขวักไขว่ ที่องค์พระธาตุในตอนนี้คงจะมีการซ่อมกันอีก ผมมาไหว้พระธาตุหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะมาเจอพระธาตุกำลังซ่อมอยู่ ครั้งนี้ก็เหมือนกันผมไม่ทราบว่าเขาซ่อมอะไร เห็นเอาผ้าใบหรือผ้าพล๊าสติกก็ไม่ทราบขึ้นไปห่มองค์พระธาตุไว้ พอดีในตอนนี้มีเทศกาลคนซ่อมเขาจึงหยุดทำการชั่วคราว

        ผมได้ยินโฆษกพูดให้มาทำบุญกัน และให้มาสรงน้ำองค์พระธาตุด้วย เห็นคนยืนเข้าแถวกันตรงนั้นผมก็ไปเข้าแถวบ้างเมื่อถึงคิวผมก็ตักน้ำ รู้สึกว่าจะเป็นน้ำผสมน้ำหอมไทย ใส่ลงไปในถังอลูมิเนียมเล็กๆมีฝาปิดนั้น มากพอสมควรแล้วก็ชักรอกขึ้นไป พอถังอลูมิเนียมนั้นกระทบกับองค์ พระธาตุก็คว่ำลงน้ำก็ไหลออกราดตรงนั้น ในการนี้เขามีหีบให้เราใส่เงินทำบุญด้วย เขาไม่จำกัดจำนวนว่าต้องทำบุญเท่าไร หรือจะไม่ทำบุญเลยก็ได้ไม่มีใครว่าอะไร 

 

ตักน้ำหอมที่เขาเตรียมไว้แล้วใส่ในถังอลูมิเนียมเล็กๆคนละนิดหน่อย จนได้มากพอแล้ว

จับเชือกเตรียมชักรอกขึ้นไป

ผู้ที่ตักน้ำใส่ถังนั้นก็ร่วมกันดึงเชือกชักรอกขึ้นไปเทที่องค์พระธาตุด้านบน

 

เมื่อชักรอกถังน้ำขึ้นไปถึงที่แล้วถังน้ำก็จะคว่ำลง เป็นการสรงน้ำให้องค์พระธาตุ

        พวกเราเดินขึ้นไปในศาลาใหญ่ที่องค์พระเจ้าแก้วประดิษฐานอยู่ กราบไหว้แล้วก็ปิดทองเป็นอันเสร็จพิธีที่เราได้ตั้งใจไว้

ภายในศาลาใหญ่ที่ประดิษฐาน ชั่วคราวของพระเจ้าแก้วสร้างอย่างใหญ่โตสวยงาม

 

ภายในศาลาใหญ่มองจากด้านหน้าเข้าไป

 

ปิดทองพระเจ้าแก้วองค์จริงที่มาประดิษฐานอยู่ที่นี่

ถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกสักรูปหนึ่งก่อนลงไปข้างล่าง

        จากนั้นก็เดินดูสิ่งต่างๆภายในบริเวณวัดนี้อีกพักใหญ่โหน่งลูกชายผมก็เดินไปที่โน่นที่นี่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆเพราะว่าเขาเป็นคนชอบถ่ายรูป จนเกือบจะบ่ายโมงจึงได้ลงมาจากวัด กะว่าจะไปกินข้าวเที่ยงกันที่ตลาดเกาะคา

ทางขึ้นลงด้านหน้าของวัดพระธาตุลำปางหลวง ขาลงผมก็ลงทางนี้

   พอรถออกจากวัดมาได้หน่อยสัก ๒ กิโลเห็นจะได้ เห็นข้างทางมีร้านอาหารตั้งอยู่หลายร้าน ผมจึงถามว่าเราหาข้าวกินกันแถวนี้เลยจะดีไหมให้มันเสร็จๆไปซะ ทุกคนก็ว่าดี ต่างคนต่างก็มองร้านอาหารผ่านมาหลายร้านแล้วก็ยังไม่ตกลง มาเจอร้านหนึ่งมองเข้าไปว่าจัดร้านสะอาดพอใช้ได้ แต่มองไม่เห็นคนมานั่งกินเลย คงจะมากินกันเมื่อตอนเที่ยงไปหมดแล้ว เข้าไปจอดหน้าร้านแล้วสั่งอาหารมากินเลย ร้านนี้มีแต่พวกข้าวซอย และก๋วยเตี๋ยว ไม่มีข้าวหรืออาหารตามสั่ง จึงได้สั่งข้าวซอยมากินกันดูว่าจะอร่อยหรือไม่

    เรื่องข้าวซอยนี้มีอยู่เจ้าหนึ่ง ชื่อว่าร้าน  “เจ้าใหม่รสลำ”  (ภาษาเหนือแปลว่ารสอร่อย) ตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือทางที่จะไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ไปสวนสัตว์เชียงใหม่ หรือทางที่จะขึ้นดอยสุเทพนั่นแหละครับทางเดียวกัน ข้าวซอยเจ้าที่ว่านี้ไม่ได้เป็นร้านห้องแถวนะครับ ต้องเข้าจากรั้วประตูเหล็กบานใหญ่ไปนิดหน่อย ร้านตั้งอยู่ในดงไม้ร่มครึ้ม เมื่อวันที่ผมไปกินเมื่อหลายปีก่อนนั้น มีรถจอดกันเต็มไปหมด นับว่าขายดีมากทีเดียว ข้าวซอยร้าน “เจ้าใหม่รสลำ”  นี้แหละที่ผมว่าอร่อยที่สุด อีกร้านหนึ่งที่อร่อยดีพอๆกัน คือร้าน “น้องเบียร์”  ที่ตลาดอำเภอปายโน่นนั่นก็จัดว่าชั้นหนึ่งเหมือนกัน

   ข้าวซอยร้านที่เกาะคานี้ไม่ค่อยอร่อยครับ น้ำเย็นชืดเกินไปหน่อย รสไม่ค่อยเข้มข้นแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากกินจนหมดชามแล้วก็ไม่ได้สั่งต่อ คุณหวานและนายโหน่งลูกชายผมก็เหมือนกัน กินกันคนละชามเท่านั้น จ่ายเงินแล้วก็เดินทางต่อ

  ออกจากเกาะคาเมื่อเวลา บ่ายโมงกว่านิดหน่อย แล้วก็ไม่ได้แวะที่ไหน นอกจากเข้าปั๊มน้ำมันบ้างเป็นครั้งคราว

 

 

 

 

 

วิ่งกันรวดเดียวถึงกำแพงเพชรแวะซื้อกล้วยตากเสียหน่อย นั่งหลับๆตื่นๆไม่นานก็ถึงนครสวรรค์ ที่นครสวรรค์นี้รถติดกันตรงเชิงสะพานข้ามแม่น้ำเป็นประจำ ยิ่งถ้าเป็นเทศกาลแล้วรถติดตรงนี้นานหน่อยต้องใจเย็นๆ เลยนครสวรรค์ถึงทางแยกท่าน้ำอ้อยแล้ว เลี้ยวขวาเข้าไปไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงชัยนาท จากชัยนาทไปสุพรรณบุรีนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องถนนหนทาง รับรองไม่มีคำว่าสะเทือนเลยครับ ขับนิ่งตลอด ยิ่งใกล้สุพรรณถนนยิ่งดีมากขึ้น ไม่นานก็ผ่านทางเข้าบึงฉวากซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ จนกระทั่งถึงบ้านที่สามชุกเมื่อกว่า ๖ โมงเย็นนิดหน่อย


ไปเชียงใหม่เที่ยวนี้ คุณหวานภรรยาของผม บอกว่า      "   ไปเชียงใหม่เที่ยวนี้เหมือนฝันไปจริงๆพับผ่าซี  "  .........

  นายแก้ว เขียนไปเชียงใหม่ ๕ (ตอนจบ)

 www.chetsamian.org  ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อมูลและรูปภาพบนเว็บไซต์ทั้งหมด โดยไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ ทำซ้ำ แก้ไข หรือ ดัดแปลง ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด หากท่านใดต้องการข้อมูลบนเว็บไซต์ www.chetsamian.org กรุณาติดต่อ นายแก้ว โดยส่ง email ไปที่  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.   เพื่อขออนุญาติเสียก่อน เนื่องจากข้อมูลและรูปภาพบางเรื่องและบางชิ้น เป็นของท่านผู้เขียนและท่านสมาชิกที่ได้เขียนเรื่องต่างๆ และให้ขอยืมภาพต่างๆมาลงไว้ ซึ่งทางผู้จัดทำเว็บไซต์จำเป็นจะต้องขออนุญาตจากทางเจ้าของผลงานก่อนทุกครั้ง จึงเรียนมาเพื่อทราบ 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้550
เมื่อวานนี้485
สัปดาห์นี้2524
เดือนนี้8691
ทั้งหมด1338575

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online