หมอ "ครับท่าน"

 

ซาเล้งอายุมากแล้ว

   ถ้าท่านเคยอ่านเรื่องที่ผู้เขียนได้เขียนลงในเวบนี้ คงจำกันได้ว่าผู้เขียนเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัวคือ การ์ตูน  ขุนตาน และซาเล้ง (ปั๊ก)

สองตัวแรกเป็นสุนัขพันธุ์ผสมตัวค่อนข้างใหญ่  การจะพาไปหาสัตว์แพทย์แต่ละครั้งค่อนข้างยุ่งยาก เพราะตัวมันหนักจนอุ้มไม่ไหว ครั้นจะเรียกให้ขึ้นรถมันก็ไม่ยอม มันคงรู้ว่าจะต้องโดนฉีดยาอย่างนั้นแหละ

จนกระทั่งมีญาติคนหนึ่งเขาแนะนำว่าก็ให้หมอ (สัตว์แพทย์) มาฉีดยาที่บ้านสิที่บ้านเขาก็ทำอย่างนี้มาตลอด บอกเสร็จแล้วก็จดเบอร์โทรศัพท์ของหมอให้ด้วย และบอกอีกว่าหมอคนนี้เขาบริการถึงบ้าน โทร.เรียกได้เลยค่ารักษาก็คิดไม่แพง

เมื่อถึงวันครบกำหนดที่หมาทั้งสามตัวต้องได้รับการฉีดวัคซีนประจำปี ผู้เขียนจึงโทรศัพท์ถึงหมอ (สัตว์แพทย์)ตามที่ญาติแนะนำ

“จากไหนครับ” เสียงหมอถาม 
“โทร.จากบ้านค่ะ จะให้คุณหมอมาฉีดยาให้หมาที่บ้านหน่อย” แล้วผู้เขียนก็บอกทางมาบ้านจนหมอเข้าใจ

ประมาณหกโมงเย็นหมอก็มาเรียกที่หน้าบ้าน
“หมอมาแล้วคร้าบ ๆ” หมอขับรถปิคอัพสีบลอนด์ ที่ต่อกะบะเป็นตู้ซึ่งมีกล่องซ้อนกันอยู่หลายใบ คงเป็นอุปกรณ์ต่างๆในการรักษาสัตว์ มีกรงขนาดย่อมวางอยู่ด้วยกรงหนึ่ง มองดูแล้วหมอน่าจะอายุไม่เกินสี่สิบปี ผิวขาว ดูก็รู้ว่าหมอเป็นลูกคนจีน

เมื่อได้คุยกันแล้วจึงได้รู้ว่าหมอคนนี้แกเคยทำงานราชการ และได้ลาออกมาทำอาชีพส่วนตัวได้หลายปีแล้ว หมอไม่ได้เปิดคลินิกแต่ไปรักษาให้ที่บ้านเลย ตอนนี้หมอมีลูกค้ามาก กลับเข้าบ้านสามสี่ทุ่มทุกวัน บ้านหมออยู่ในตัวเมืองราชบุรีนี่เอง

หลังจากฉีดวัคซีนหมาทั้งสามตัวแล้ว ผู้เขียนก็ขอให้หมอดูเจ้าซาเล้ง(ปั๊ก)ให้หน่อยเพราะหมู่นี้มันคันตัวมาก เห็นมันเกาตัวตลอดเวลา 
“หมอว่าเค้าเป็นภูมิแพ้นะ อาจจะแพ้อาหารประเภทสัตว์ปีก อาจารย์อย่าให้เค้ากินไก่ ควรให้กินปลาจะดีกว่าครับท่าน” หมอบอกและเริ่มเรียกผู้เขียนว่า "อาจารย์"

 ซาเล้งอายุมาก หนวดเคราเริ่มขาวแล้ว 

“เดี๋ยวหมอจะฉีดยาให้รับรองหายแน่ แต่โรคนี้อาจต้องใช้เวลาครับท่าน อีกสองอาทิตย์ อาจารย์โทร.เรียกหมออีกทีแล้วกัน” หลังจากคิดค่ารักษาเสร็จแล้วหมอก็ลากลับ

 “หมอกลับก่อนนะครับสวัสดีครับท่าน” แล้วหมอก็หิ้วกล่องใส่อุปกรณ์ในการรักษาขึ้นรถไป หมอมักจะพูดลงท้ายด้วยคำว่า “ครับท่าน” พวกเราเลยเรียกหมอ (ลับหลัง) ว่า “หมอครับท่าน”เสียเลย !

  ซาเล้งกำลังเห่าการ์ตูน ขุนตาน เพราะหวงขนม

หลังจากนั้นหมอครับท่านจะมารักษาโรคภูมิแพ้ ให้ซาเล้งอย่างน้อยเดือนละครั้ง  หมอเป็นคนคุยเก่ง หมอจะพูดถึงการทำบุญสุนทานเสมอ หมอบอกว่าคนเราต้องทำบุญเยอะๆ แล้วผลบุญจะทำให้เรามีความสุข ซึ่งผู้เขียนก็เห็นด้วย 

ปกติเวลาหมอครับท่านมารักษาซาเล้ง จะไม่ได้เข้ามาในบ้านแต่จะรักษาอยู่ที่เทอเรซหน้าบ้านซึ่งมีหลังคายาวไปจนถึงรั้วบ้าน ถนนนอกบ้านเป็นถนนที่ยังไม่ได้ลาดยาง จึงมีหญ้าและต้นไม้เล็กๆขึ้นที่ขอบถนนอยู่ทั่วไปดูรกๆ บ่อยครั้งที่งูหรือตะขาบหลงคลานเข้ามาในเขตรั้วบ้าน ซึ่งผู้เขียนจะกลัวตัวพวกนี้มาก

“หมอมาแล้วคร้าบๆ”วันนี้หมอครับท่านมาฉีดยาแก้ภูมิแพ้ให้ซาเล้งเหมือนเช่นเคย ขณะที่หมอเตรียมอุปกรณ์ในการรักษาอยู่ที่เทอเรซหน้าบ้าน ผู้เขียนก็เรียกซาเล้งให้ออกมาหาหมอ มันไม่ค่อยจะยอมต้องอุ้มออกมา มันรู้ว่าจะต้องถูกฉีดยา 

“มาลูกมาเร้ว เดี๋ยวหายนะ คนเก่ง” หมอพูดกับซาเล้ง หลังจากฉีดยาเสร็จ หมอครับท่านก็เตรียมตัวกลับ แต่ขณะนั้นพวกเราก็เห็นงูตัวหนึ่งเลื้อยลอดประตูรั้วเข้ามา เป็นงูตัวเล็กประมาณเท่านิ้วก้อยเห็นจะได้ หลานชายที่นั่งอยู่ด้วยรีบหาไม้จะตีงู

“อย่าครับท่าน อย่าครับท่าน! ปล่อยเค้าไปเถอะครับ เค้ายังเล็กอย่าทำเค้าเลย” เสียงหมอพูดห้าม หลานชายเลยชะงักแล้วหันมามองหน้าผู้เขียน เจ้างูก็เลื้อยหายเข้าไปใต้กระถางต้นไม้

“เดี๋ยวเค้าก็ออกไปเองแหละครับ”

ในขณะนั้นผู้เขียนได้แต่นึกในใจว่า หมอครับท่านช่างเป็นคนใจบุญเสียจริงๆ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็ขอให้สัตว์แพทย์ทุกคนรักและเมตตาสัตว์เหมือนหมอ"ครับท่าน" ด้วยเถิด เจ้าประคู้น....!

เขียนโดย อ. ปลาทอง

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้35
เมื่อวานนี้460
สัปดาห์นี้1885
เดือนนี้11132
ทั้งหมด1341016

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online