เรื่องของนายเทิง

มอเตอร์ไซค์รับจ้างจะเห็นมีอยู่ทั่วไป

     ปัจจุบันนี้จะเห็นว่ามอเตอร์ไซด์รับจ้างมีอยู่ทั่วไปทุกตรอกซอกซอยไม่ว่าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด ที่ราชบุรีก็มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างเยอะมาก

   เป็นการดีที่ทำให้พวกเขามีงานทำ มีเงินไปเลี้ยงครอบครัวและเป็นการสะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ นอกจากจะรวดเร็วแล้ว ค่าบริการก็ไม่แพงมากแล้วแต่ระยะทาง ไปใกล้ ๒๐ – ๓๐ บาท ไกลหน่อยอาจจะ ๕๐ – ๑๐๐ บาท ถึงแม้ว่าจะเป็นการสะดวกและรวดเร็วดี แต่ก็มีข้อเสียด้วยคือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และก็เกิดบ่อยๆเสียด้วย
 
   ยกตัวอย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนดูข่าวจากโทรทัศน์ เขาบอกว่าพวกฝรั่งที่ประเทศอะไรก็จำไม่ได้แล้ว เขาทำโพล (แบบสอบถาม) ขึ้นมาในหัวข้อ สิ่งที่อันตรายที่สุด ปรากฏว่าอันตรายอันดับหนึ่ง คือการนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ประเทศไทย เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเมื่อไรก็ได้
 
   เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือดูเหมือนเป็นของจำเป็น แทบทุกคนทุกชนชั้นตั้งแต่คนระดับผู้บริหารประเทศ คนทำงาน จนถึงคนรับซื้อของเก่าตามบ้านแม้แต่เด็กนักเรียนตัวเล็กๆก็ จะมีโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น มอเตอร์ไซด์รับจ้างก็เช่นเดียวกัน ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือสำหรับให้ลูกค้าเรียกใช้บริการตามเบอร์โทร.ที่ให้ไปเป็นการพัฒนาด้านการบริการอีกแบบหนึ่ง
 
     
ปัจจุบันนี้จะเห็นว่ามอเตอร์ไซด์รับจ้างมีอยู่ทั่วไปทุกตรอกซอกซอยไม่ว่าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด ที่ราชบุรีก็มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างเยอะมาก  เป็นการดีที่ทำให้พวกเขามีงานทำ มีเงินไปเลี้ยงครอบครัวและเป็นการสะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์

    นอกจากจะรวดเร็วแล้ว ค่าบริการก็ไม่แพงมากแล้วแต่ระยะทาง ไปใกล้ ๒๐ – ๓๐ บาท ไกลหน่อยอาจจะ ๕๐ – ๑๐๐ บาท ถึงแม้ว่าจะเป็นการสะดวกและรวดเร็วดี แต่ก็มีข้อเสียด้วยคือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และก็เกิดบ่อยๆเสียด้วย

    ยกตัวอย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนดูข่าวจากโทรทัศน์ เขาบอกว่าพวกฝรั่งที่ประเทศอะไรก็จำไม่ได้แล้ว เขาทำโพล (แบบสอบถาม) ขึ้นมาในหัวข้อ สิ่งที่อันตรายที่สุด ปรากฏว่าอันตรายอันดับหนึ่ง คือการนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ประเทศไทย เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเมื่อไรก็ได้
 
   เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือดูเหมือนเป็นของจำเป็น แทบทุกคนทุกชนชั้นตั้งแต่คนระดับผู้บริหารประเทศ คนทำงาน จนถึงคนรับซื้อของเก่าตามบ้านแม้แต่เด็กนักเรียนตัวเล็กๆก็ จะมีโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น มอเตอร์ไซด์รับจ้างก็เช่นเดียวกัน ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือสำหรับให้ลูกค้าเรียกใช้บริการตามเบอร์โทร.ที่ให้ไปเป็นการพัฒนาด้านการบริการอีกแบบหนึ่ง
 
   มอเตอร์ไซค์รับจ้างแต่ละคนจะมีลูกค้าขาประจำทั้งนั้น เช่นไปรับไปส่งคนที่ทำงานทุกเช้าหรือรับเด็กนักเรียนกลับบ้านตอนเย็น ฯลฯ เป็นต้น
เมื่อรับส่งลูกค้าขาประจำแล้วในวันนั้นๆแล้ว ก็จะมาคอยลูกค้าทั่วไปที่  วิน มอเตอร์ไซด์ บางวินก็อยู่กันจนดึกดื่นเพื่ออยู่รอรับลูกค้าทั่วไปก็มี

   (ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งคำว่า "วิน" นี้เป็นคนแรก แต่ก็เหมือนจะมีความหมายว่า เป็นสถานีหรือที่ตั้งต้นของบริการรถมอเตอร์ไซค์ในย่านนี้)

       ผู้เขียนเองทำงานประจำอยู่ที่ในตัวจังหวัดนครปฐม น้องสาวของผู้เขียนทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดนี่เอง ดังนั้นในการเดินทางไปทำงานของผู้เขียนจึงไม่มีอุปสรรคอะไร ทุกอย่างก็ราบรื่นมาด้วยดี

     เช่นในตอนเย็นผู้เขียนเลิกงานแล้วก็นั่งรถประจำทางจากที่ทำงานนครปฐม ถึงท่ารถที่ราชบุรีแล้วน้องสาวคนที่เป็นครูก็ขับรถมารอรับที่ท่ารถแล้วเราก็จะกลับบ้านพร้อมกัน เพราะว่าบ้านของน้องสาวก็อยู่ใกล้ๆกับบ้านของผู้เขียนนั่นเอง เป็นอย่างนี้ทุกวัน 

     แล้ววันหนึ่งผู้เขียนก็ให้มีอันต้องใช้บริการมอเตอร์ไซด์รับจ้าง สาเหตุเนื่องจากน้องสาวผู้เขียน ซึ่งมีหน้าที่คอยรับส่งผู้เขียนจากบ้านไปท่ารถ บขส. และไปรับที่ท่ารถฯกลับบ้านทุกเช้าเย็นเพื่อไปทำงานที่นครปฐม เกิดมีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่ดูแลหลานเล็กที่กรุงเทพชั่วคราว  จึงไม่อาจอยู่รับส่งผู้เขียนได้เหมือนเคย
 
     เราต่างปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกันดี ในที่สุดก็คิดกันได้ว่าคงต้องใช้บริการมอเตอร์ไซด์รับจ้างเสียแล้ว และอยากจะเอาแบบที่รับส่งเป็นการประจำ แต่จะใช้บริการของใครดีล่ะ

     ความที่ไม่ค่อยได้ใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้างสักเท่าไร เลยค่อนข้างกลัวเพราะเคยดูข่าวเรื่องการจี้ปล้นโดยเฉพาะกับผู้หญิงและเรื่องอุบัติเหตุด้วย จึงคิดว่าอยากได้คนที่ดีและมีอายุมากสักหน่อย เพราะว่าคนเรานั้นรู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีคิดว่าไว้ใจได้ แต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่ก็ได้
 
     ที่ปากซอยบ้านของผู้เขียนก็มีวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง น้องสาวบอกว่าเราไปถามอาม่าที่ร้านขายของปากซอยที่เรารู้จักดีและไปซื้อของที่ร้านแกบ่อยๆ ให้อาม่าแกแนะนำให้ อย่างน้อยอาม่าแกอยู่แถวนี้มานานก็ต้องรู้บ้างละน่าว่าคนไหนเป็นอย่างไร 

     พอเราไปบอกอาม่าก็ใจดี รีบไปเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่แกเห็นว่าดีกว่าใครเพื่อนมาให้รู้จัก  ผู้เขียนจึงได้บอกทางไปบ้านให้และขอเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ จะได้สะดวกเวลาที่จะเรียกใช้บริการ

     คนที่อาม่าแกเรียกมาให้เรานี้ ชื่อของเขาคือนาย เทิง  เป็นชายร่างสันทัด ผิวคล้ำ ค่อนข้างเตี้ย อายุประมาณสี่สิบกว่าๆ  หน้าตาเฉยเมยและเป็นคนไม่พูด (ประเภทถามคำตอบคำ) ผู้เขียนถามเขาว่าบ้านอยู่อิสานหรือ ! ( เพราะผู้เขียนคิดว่าหน้าตาเขาเหมือนคนอิสาน )
 “ผมเป็นคนราชบุรี บ้านผมอยู่ใกล้ปากซอยนี่เอง” เขาตอบ (นี่แหละเรียกว่าดูแต่หน้าไม่ได้)
 
     วันแรกที่ใช้บริการ นายเทิงมารับเพื่อไปส่งที่ท่ารถ บขส. นัดหมายกันเวลาหกโมงเช้า เขามาตรงเวลามากและตรงเวลาเช่นนี้ทุกวัน ไม่เคยขาดเกิน เขาดูเป็นคนเรียบร้อย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่แม้จะเก่าแต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน

     การขับรถมอเตอร์ไซด์ เขาจะขับไปเรื่อยๆไม่เร็วมากคล้ายๆกับเป็นคนมีอารมณ์ดี ใจเย็น และดูเหมือนมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เขาคงมีลูกค้าขาประจำมาก เห็นได้จากขณะที่กำลังส่งผู้เขียน บ่อยครั้งจะมีโทรศัพท์มาเรียกใช้บริการของเขาเรื่อยๆ
 
     นับจากวันนั้นผู้เขียนก็ได้ใช้บริการมอเตอร์ไซด์รับจ้างของนายเทิงมาตลอด เหตุการณ์ก็เป็นไปด้วยดี

    แต่วันหนึ่งเนื่องจากผู้เขียนออกจากสำนักงานที่นครปฐมค่อนข้างช้า จึงมาถึงท่ารถที่ราชบุรีประมาณหกโมงครึ่งเย็น ฟ้าเริ่มมืดแล้วเนื่องจากเป็นหน้าหนาว ผู้เขียนได้โทร.เรียกนายเทิงให้มารับตามปกติ

 “ พี่ ผมเข้าบ้านแล้ว คงไม่ออกไปอีก พอดีที่บ้านกำลังมีเรื่องยุ่งๆ” เสียงนายเทิงตอบมาตามสาย
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เรียกคันอื่นก็แล้วกัน เท่านี้นะ” ผู้เขียนตอบ

     ขณะที่กำลังจะวางสาย ผู้เขียนได้ยินเสียงนายเทิงแว่วเข้ามาในโทรศัพท์ (เขายังไม่ได้วางสาย)

     “ทำไม ! ก็กูพูดความจริงนี่หว่า  ไอ้เรามันคนกินเหล้านี่โว้ย” เป็นเสียงเกรี้ยวกราดของนายเทิง
 
    ตั้งแต่นั้นมา  ผู้เขียนไม่เคยเรียกใช้บริการของนายเทิงหลังหกโมงเย็นอีกเลย เนื่องจากเกรงว่าจะไปขัดความสำราญในวงเหล้าของนายเทิงนั่นเอง..!
 
 
อ. ปลาทอง ๑๘  มิถุนายน  ๒๕๕๓

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้258
เมื่อวานนี้706
สัปดาห์นี้2814
เดือนนี้12061
ทั้งหมด1341945

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online