สถานีรถไฟหลังใหม่ ในที่เก่า

อาคารสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนหลังใหม่ สร้างแทนที่อาคารหลังเก่าที่ถูกรื้อไปแล้ว คล้ายๆของเดิมแต่ทันสมัยสวยตระการตาดี   

       าคารหลังใหม่ของสถานีรถไฟเจ็ดเสมียน ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วถึง ๙๙ เปอร์เซ็นต์ มองดูแล้วก็เหมือนจะ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็มด้วยซ้ำไป       ช่างก็หยุดทำงานกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ว่าคอยวันที่จะส่งมอบงานกันเท่านั้น นี่ผมก็ได้ข่าวจากผู้บริหาร เทศบาลตำบลเจ็ดเสมียนท่านหนึ่ง บอกผมว่า

    เมื่อมอบงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะจัดงานฉลอง สถานีรถไฟหลังใหม่นี้ทันทีในนามของ เทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน และประชาชนชาวเจ็ดเสมียนทั้งหลาย 

    ถึงแม้จะไม่ใช่สมบัติของคนเจ็ดเสมียนโดยตรงก็ตาม ก็จะมีการทำบุญเลี้ยงพระยังไม่ทราบว่าจะเช้าหรือเพล เมื่อถึงวันนั้นเขาก็จะออกข่าว บอกชาวประชากันอีกทีหนึ่ง คงไม่อุบเงียบเหมือนเมื่อตอนรื้อทิ้งเป็นแน่

กันเอาเองก็แล้วกัน ภาษาสมัยใหม่นี้ก็จะพูดว่า แหล่มจริงๆ 

      ยืนมองดูแล้วก็สวยดี ทันสมัย อาจจะมีบางคนที่ดูแล้วจะลืมของเก่าไปเลยก็ว่าได้ ทั้งๆที่ตอนรื้อก็อาลัยอาวรณ์กันเป็นอย่างยิ่ง แบบแปลนของใหม่ก็คล้ายๆ (เกือบเหมือน) ของเดิม เพียงแต่ว่าวัสดุก่อสร้างที่นำมาทำนั้น เป็นของใหม่เป็นของที่ทันสมัย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสถานีรถไฟที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้จะแข็งแรงทนทานไปอีกชั่วกาลนาน

้า...มาดูกันอีกด้านก็ได้ แจ่มไม่เบาเหมือนกัน ..!

      รอดูให้เสร็จสมบูรณ์กันก่อน ว่าจะเป็นอย่างไร จะมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของเจ็ดเสมียน แทนของเก่ากันได้หรือไม่ ถึงอย่างไรก็ยังคิดถึงสถานีรถไฟหลังเก่านั้น

     เพราะว่าเป็นสถานีรถไฟ แห่งความทรงจำของชาวเจ็ดเสมียน และบุคคลทั่วๆไปที่ได้เคยเห็น และเคยได้ใช้บริการมาชั่วนาตาปี ความหลังทั้งหลายแหล่ยังคิดถึงอยู่ทุกวัน และจะยังอยู่ในใจของคนเจ็ดเสมียนตลอดไป.

ห้องน้ำห้องส้วมสำหรับผู้มารับบริการของสถานีรถไฟด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทันได้เข้ามาจากบ้าน มาเข้าที่นี่ก็ได้รับรองว่าสะอาด ถูกหลักอนามัย เสร็จแล้วก็ช่วยๆกันรักษาความสะอาดด้วยก็แล้วกันนะ

     สำหรับส่วนตัวของผู้เขียนนั้น มีหลายเรื่องและหลายเหตุการณ์ ที่จะต้องระลึกถึงสถานีรถไฟแห่งนี้ เช่นว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อกว่า ๕๐ ปีมาแล้ว ตอนบ่ายแก่ๆ ณรงค์ ชาญชาติณรงค์ (ต๋อย) เพื่อนรุ่นเดียวกับผู้เขียน

    บุตรชายของเฮียไล้ เจ๊กิ๊ต คนดังของตำบลเจ็ดเสมียน และเป็นพี่ชายของ อุษา กาแฟโบราณ ได้มาชวนผู้เขียนให้ไปปีนต้นมะขามเปรี้ยวต้นใหญ่ ที่อยู่ด้านข้างสถานีรถไฟ เพื่อ (ขโมย) เอาฝักไปกินกัน

     ต้นมะขามเปรี้ยวต้นนี้ถ้าอยู่จนปัจจุบันนี้ ก็จะอยู่ในเขตของสถานีรถไฟ เยื้องๆกับศาลของตาผ้าขาวนั่นแหละครับ นอกจากจะมีต้นมะขามแล้ว ยังมีต้นมะม่วงมันๆอีกหลายต้น ซึ่งก็ไม่พ้นเด็กตลาดเจ็ดเสมียน ขึ้นไปเอาลูกมันลงมากินครับ

       ขณะที่ผมและไอ้ต๋อยกำลังเก็บฝักมะขามใส่ลงไปในผ้าขะม้า ซึ่งมัดขมวดเป็นถุงอยู่บนต้นมะขามใหญ่นั้น มีเด็กตลาดรุ่นน้องคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาตะโกนบอกว่า "เฮียต๋อย เฮียเก้ว กำนันมารีบหนีด่วนเลย..! " (กำนันโกวิท พ่อของเพื่อนพวกผมเอง)

    ณรงค์และผมตกใจเยี่ยวแทบเล็ด เพราะว่าถ้ากำนันจับตัวได้ต้องโดนตีตูดระบมเป็นแน่ ผมรีบโยนถุงผ้าขะม้าลงมาก่อน แล้วต่างคนต่างก็รีบรูดลงมาจากต้นมะขาม ตามแขนขาถลอกไปหมด ไอ้ต๋อยถึงพื้นดินก่อนแล้วมันก็หอบถุงมะขามเปรี้ยว วิ่งเข้าไปแอบในบ้านพักของนายสถานี (ลำไย โสภาพันธ์)   ผมถึงพื้นดินแล้วก็วิ่งตามไอ้ต๋อยไปทันที 

    กำนันโกวิท  ถือไม้ตะพดอันเบ้อเริ่ม แถมมีปืนลูกซองสะพายหลังด้วย คงจะไปตามผู้ร้ายที่ไหน แก (ทำเป็น) เดินวนไปวนมาแกล้งหาพวกผมไม่เจอ แล้วก็เดินเข้าไปในตลาด ผมกับณรงค์เลยรอดตัวไป ไอ้ต๋อยมันบอกว่า "เกือบเสร็จไปแล้วไม๊ล่ะ กู"

 

เอาภาพของสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนหลังเก่าดั้งเดิม มาลงเอาไว้ให้ดูกันอีกสักครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้เป็นความทรงจำตลอดไป 

นายแก้ว ผู้เขียน ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้319
เมื่อวานนี้485
สัปดาห์นี้2293
เดือนนี้8460
ทั้งหมด1338344

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

2
Online