ลำนำใจ ลำนำศิลป์ ถิ่นของเรา ครั้งที่ ๒

    

       ในวันนี้ "ลำนำใจลำนำศิลป์ถิ่นของเรา"  ครั้งที่ ๒ ขอเสนอกลอนชื่อว่า  " นิยายรักริมคลองที่เจ็ดเสมียน " ขอเชิญหาความสำราญกันได้เลยครับ.

ไผ่พลิ้วลมครวญครางข้างริมคลอง
มองเห็นทุ่งรวงทองงามสดใส
น้ำเจิ่งนองเต็มตลิ่งคลื่นวิ่งไป
แลทางไหนงดงามอร่ามตา

งานวันลอยกระทงใกล้มาแล้ว
นัดน้องแก้วเอาไว้ให้มาหา
ไปลอยกันที่ท่าท้ายศาลา
วัดเจ็ดเหมียนนั้นหนาเขามีงาน

เมื่อถึงเพ็ญสิบห้าค่ำเดือนสิบสอง
น้ำในคลองเต็มเปี่ยมล้นตลิ่ง
นัดเอาไว้สาวนั้นมางดงามจริง
ดีใจยิ่งเข้าไปหายอดยาใจ

ลูกผู้ใหญ่ลูกกำนันก็มาด้วย
ต่างก็ช่วยถือกระทงลงตีนท่า
ต่างจุดธูปจุดเทียนไหว้วันทา
ขอให้แม่คงคาจงเห็นใจ

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน

ปล่อยกระทงลอยไปในสายน้ำ
ตามองตามกระทงน้อยไม่แยกห่าง
รักของเราคงไม่มีวันอับปาง
กระทงน้อยนำทางไปตามกัน

จากวันนั้นถึงวันนี้ไม่มีแล้ว
ด้วยน้องแก้วจากทุ่งไปไกลห่าง
กระทงน้อยของเรานั้นอับปาง
ด้วยน้องนางจากไปไกลท้องนา

ลานนวดข้าวปีนี้ไม่มีน้อง
เฝ้าแต่มองคอยหามาให้เห็น
คำสัญญาคำนั้นมันไม่เป็น
จริงดั่งเช่นที่เราเคยสัญญา

หนุ่มเจ็ดเหมียนหนึ่งนั้นเฝ้าฝันถึง
สาว พงหวาย คนหนึ่งซึ่งเคยเห็น
ได้พบกันทุกวันทั้งเช้าเย็น
แล้วมาเป็นอะไรใจเปลี่ยนแปร

เธอได้จากทุ่งทองและท้องนา
ห่างพี่ป้าน้าอาคนรักใคร่
ไปอยู่ในเมืองหลวงศิวิไลซ์
ขอให้รู้เอาไว้มีใครคอย

บางครั้งที่เดินไปในท้องนา
น้ำตาร่วงออกมาเพราะคิดถึง
เคยคลอเคล้าเคียงคู่ดูตราตรึง
สุดรำพึงตอนนี้ต้องเดินเดียว

เรื่องเก่าๆเหล่านี้ที่ผ่านมา
สี่สิบปีกว่าๆเห็นจะได้
วันเวลาและทุกอย่างผ่านเลยไป
เรื่องซึ้งๆทั้งหลายไม่ลืมเลือน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน

งานวันลอยกระทงในปีนี้
เทศบาลทำดีจัดงานใหญ่
มีทั้งการเผาเทียนและเล่นไฟ
กลับมาเที่ยวให้ได้ .. ตั้งใจคอย

   นายแก้ว 

 แว่วเสียงเพลงแสนแสบแปลบเข้าหู
ดังก้องอยู่สะท้านใจฉันหนักหนา
เปรียบเปรยหญิงคู่ใจ ไม่นำพา
ต้องจากมาอยู่ในเมืองศิวิไลซ์

หญิงคนนั้นคือฉันนี้นะพี่เอ๋ย
จะขอเอ่ยความในใจให้นึกถึง
เรื่องเก่าๆของเราช่างตราตรึง
ว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้รักกัน

ในปีนั้นสองเราได้สัญญา
เก็บเกี่ยวเสร็จนี้หนาจะมาขอ
ต่อจากนั้นดีใจและเฝ้ารอ
สองหน้าเกี่ยวแล้วหนอก็ไม่มา

ลมข้าวเบาพัดผ่านหลายครั้งแล้ว
รักน้องแก้วทำไมไม่มาขอ
ไยจึงปล่อยให้น้องคอยเฝ้ารอ
ถ้าไม่ขอก็ให้มาเห็นหน้ากัน

นี่หายเงียบกันไปเหมือนตายจาก
ลืมความรักครั้งเก่าเราแล้วหรือ
ยินว่ามีแฟนใหม่คนเขาลือ
ปล่อยให้น้องคนซื่อช้ำในทรวง

พี่จ๋าพี่ไม่มาขอฉันแน่แล้ว
ตัวน้องแก้วคนนี้อยู่ได้ไฉน
ตัดสินใจจำพรากจากถิ่นไป
ดับอาลัยและคิดถึงซึ่งลานทอง

อนิจจาลานรักลานนวดข้าว
ตำข้าวเม่าขว้างมะพร้าวฝีมือพี่
ทุกๆสิ่งทุกอย่างจำได้ดี
คำที่พี่บอกรักและสัญญา

ทหารใหญ่คนหนึ่งมารู้จัก
ได้มารักและได้มาสู่ขอ
น้องถ่วงไว้และก็ได้แต่เฝ้ารอ
เหตุใดหนอพี่ไม่มาตามสัญญา

จะไปมีหญิงอื่นแล้วไม่ว่า
ขอให้พี่กลับมาช่วยบอกฉัน
แม้ว่าสองเรานี้ต้องขาดกัน
สายสัมพันธ์สัญญาเลิกล้มไป

สาวพงหวายร้องไห้น้ำตาตก
โอ้หัวอกสาวลานทองต้องหวั่นไหว
เขามาขอแล้วพ่อจึงยกให้ไป
ในทันใดทหารใหญ่มาแต่งงาน

เข้ากรุงแล้วอยู่ดีมีความสุข
ไม่มีทุกข์อะไรให้หม่นหมอง
ได้เห็นพี่เขียนนิยายรักริมคลอง
เดือดร้อนน้องที่จะต้องตอบกลับมา

พี่จ๋าพี่จงอยู่ดีและมีสุข
ปราศจากทุกข์ใดๆเข้ามาหา
ตัวน้องนี้ขอบอกและสัญญา
ลอยกระทงนี้หนา (หวังว่า)..มาพบกัน.

พิม พงสวาย ถ่ายเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘

เรียนท่านที่เป็นนักกลอน ชอบอ่านกลอน และชอบเขียนกลอน อาทิเช่น palida, อ.ปลาทอง,         พลอยนภัส, หมาน วัดไหม่, บุญสม คลองข่อย, พิม พงสวาย,เสถียร และนักกลอนที่ยังไม่มีผลงานลงในเวบ "เจ็ดเสมียน"  นี้  ผมขอเชิญชวนท่านนะครับ เขียนกลอนส่งมาลงเป็นการร่วมสนุกกัน นี่ก็ใกล้ถึงเทศกาลลอยกระทงอีกแล้ว นักกลอนทั้งหน้าเก่าและหน้าไหม่เขียนส่งกันมานะครับ จะจัดลงในลำนำใจลำนำศิลป์ถิ่นของเรา ในครั้งต่อๆไปครับ

นายแก้ว  ผู้เขิญชวนเหล่ามิตรรักนักกลอน

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้591
เมื่อวานนี้746
สัปดาห์นี้2952
เดือนนี้9210
ทั้งหมด1328544

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

4
Online