กำนันโกวิท 1 (สนามตีแบด)

     กำนันโกวิท วงศ์ยะรา เป็นบุคคลที่ผมจะต้องกล่าวถึงค่อนข้างมากสักหน่อย ในเจ็ดเสมียนนี้ถ้าจะเปรียบไปแล้ว กำนันโกวิทก็เปรียบเสมือนเจ้าพ่อหรือเทพเจ้าแห่งตำบลเจ็ดเสมียน       บ้านพักอาศัยของกำนันโกวิท  พร้อมด้วย ป้าจ่าง ภรรยาของกำนัน และลูกๆ อยู่ริมสุดของห้องแถวไม้แถวเก่า ซึ่งด้านหลังของห้องติดกับคลองเจ็ดเสมียน ถัดจากห้องแถวไม้ห้องแรกนี้จะเป็นถนนลูกรัง (ในสมัยนั้น) ตัดผ่านบ้านและคอกหมูของเจ๊น้อมไปเรื่อยๆ ก็จะ ถึงวัดใหม่ชำนาญ  นั่นเอง

        และถนนดินสายนี้ถ้าหากไปเรื่อยๆ อีก ก็จะไปถึงวัดบ้านซ่อง ซึ่งสมัยนั้นมีค้างคาวแม่ไก่ตัวใหญ่ๆ (ไม่ใช่ค้างคาวตัวเล็กๆ เหมือนที่เขาช่องพราน) กลางวันมันจะนอนห้อยหัวลงมาบนต้นยางใหญ่ และต้นไม้อื่นๆ ดำพืดไปหมด เป็นพันเป็นหมื่นตัว ตกตอนกลางคืนพวกมันจึงออกหากิน บางคนก็ว่าบางทีมันไปกินผลไม้ที่สวนผลไม้ ที่อำเภอดำเนินสะดวกก็มี ผมเคยเห็นพวกกรุงเทพฯ พากันใช้ปืนลูกซอง ยิงมันตอนที่เขาได้ทำเสียงดังๆ จนมันตกใจแล้วจะบินหนี เมื่อมันโดนยิงด้วยปืนลูกซองกลางอากาศ ในขณะที่มันกำลังบินนั้น มันจะกระเด็น กระดอนตามความแรง ของกระสุนปืนลูกซอง หล่นลงมาตายเกลื่อนกราด บางตัวตกลงมาพร้อมกับลูกน้อย ที่กอดอยู่กับอกแม่ของมัน

        พระที่วัดบ้านซ่องนี้ก็ออกมาห้ามพวกกรุงเทพฯ (ผมเข้าใจเอาเองว่าเป็นพวกกรุงเทพฯ) เหล่านี้ ไม่ให้ยิงค้างคาวแม่ไก่พวกนี้ พวกมนุษย์ใจบาปมันก็หาได้เชื่อ คำขอร้องของพระไม่ พอพวกมันยิงได้จำนวนพอแล้ว มันก็จะลอยนวลกลับออกจากวัดไป เป็นที่น่าอเน็จอนาจใจยิ่งนัก จนในทุกวันนี้ไม่มีค้างคาวแม่ไก่ ให้เห็นที่วัดบ้านซ่องนี้อีกแล้ว (อย่างนี้มันต้องเจอกับท่านกำนันโกวิท หรือผู้ใหญ่เสงี่ยม)

        กลับมาที่บ้านกำนันโกวิทอีกที ถ้าเรายืนอยู่ที่หน้าบ้านกำนัน มองไปทางขวา (ทิศตะวันออก) จะเป็นบริเวณของสถานีรถไฟเจ็ดเสมียน มีต้นยางใหญ่อยู่สอง-สามต้น และรกครึ้มไปด้วยต้นไม้
 

้านในอดีตของกำนันโกวิท วงศ์ยะรา อยู่ห้องริมสุดในตลาดเจ็ดเสมียน (ถ่ายเมื่อ 8 สิงหาคม 51)


        มีที่ว่างตรงทางที่จะขึ้นสถานีรถไฟ พอที่จะขีดเส้นทำคอร์ทตีแบดมินตั้นได้เท่านั้นเอง (สนามนี้พื้นเป็นดินแข็ง)ในตอนค่ำของทุกๆวัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็จะมาออกกำลังตีแบดกันที่สนามนี้ นายสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนในตอนนั้นคือ คุุณลำไย โสภาพันธ์ ถ้าแกมีเวลาว่างก็จะลงมาออกกำลังด้วยเหมือนกัน เท่าที่จำได้ก็จะมี  เฮียเล็ก ไทยเจริญ อีกคนหนึ่งละ ที่มาเล่นแบดกันที่หลังสถานีรถไฟเสมอ



 

        สนามตีแบดในปัจจุบันนี้ อยู่หลังสถานีรถไฟที่เดิม แต่ได้เทปูนแล้ว กลางวันใช้เป็นที่จอดรถ สำหรับ     คนที่มาธุระสถานีรถไฟด้วย (ถ่ายเมื่อ 8 สิงหาคม 51)


          สนามนั้นไม่รู้อยู่ในความอุปการะของใครก็ไม่ทราบ หรือว่าคนเจ็ดเสมียนรุ่นใหญ่ เขาร่วมใจทำกันเอง ทำเสียมาตรฐานทีเดียว พอค่ำลงก็จะเปิดไฟ ซึ่งจะติดไว้ที่แป้นข้างละสองดวง ดวงละ 100 วัตส์  คนที่ตีแบดมินตั้นในกลุ่มพวกเราที่ตีเก่งที่สุดในตอนนั้น ผมจำได้ว่าเป็นนาย  โอฬาร ลักษิตานนท์  (พี่ชายนายสิทธิ์) เพื่อนผมนั่นเอง

        เรื่องแบดมินตั้นนี้ ตอนนั้นเด็กเจ็ดเสมียน บ้ากันใหญ่ บ้าอะไรก็บ้ากันเป็นพักๆ ยิ่งตอนนั้น    เจริญ วัฒนสิน (เคยเป็นแชมป์แบดมินตั้นหลายรายการ) และ  ธนู  ขจัดภัย ก็เป็นแชมป์แห่งประเทศไทย ด้วยแล้ว ยิ่งบ้ากันใหญ่ ผมก็อยากจะเล่นกับเขาเหมือนกัน แต่ไม่มีไม้ แร๊กเกต (ไม้ตีแบด) ที่ตีอยู่บ่อยๆนี้ก็ขอยืมคนโน้นทีคนนี้ที เซ็งจะตาย แล้วพวกมันก็ไม่อยากให้ยืมด้วย เพื่อนผมคนที่มีแล้ว บอกว่าของใครของมันโว้ย และแม่ผมก็ไม่ยอมซื้อให้เขาบอกว่า เห่อกันไปพักเดียวเดี๋ยวก็เลิกเล่น ซื้อเสียตังค์เปล่าๆ

         ดังนั้น ผมจึงหยุดเล่นแล้วหายไปหลายวัน ไม่ได้มาเดินแถวคอร์ตแบดมินตั้นเลย ที่ผมหยุดนี้ เพื่อไปหาเงินซื้อไม้แบดมา เพื่อจะเล่นกับพวกไอ้อู๊ด ไอ้ธร มัน ดังนั้นผมจึงไปบอกอี๊น้อยว่า ผมขอเป็นคนงานทำผักกาดกับอี๊น้อย อี๊น้อยมองผมด้วยความเอ็นดู แล้วพยักหน้าหงึกๆ พร้อมตั้งเงินประจำตำแหน่งให้ผมด้วย วันละ 5 บาท เฉพาะในตอนเย็นหลังจากกลับจากโรงเรียนแล้ว

        อี๊น้อยเจ้าของผักกาดหวานตราชฎาในปัจจุบันนี้ (ในตอนนั้นยังไม่มียี่ห้อ) ก็เลยแต่งตั้งให้ผมเป็นคนเหยียบผักกาด ในตอนเย็นๆ คนงานประจำหลายสิบคน ก็จะเก็บผักกาดที่แผ่ตากไว้ในลานตากทั้งวันแล้ว หาบขึ้นมาใส่เสียม บางคนก็เรียก เตี๋ยม ผมฟังไม่ถนัด (ไม้ไผ่ที่สานเป็นแผ่นใหญ่ๆ คล้ายเสื่อแล้วมาล้อมให้เป็นวงใหญ่ แล้วเอาเชือกเกลียวเส้นใหญ่ๆผูกไว้)แล้วก็จะมีคนงาน หลายๆ คนรวมทั้งผมด้วยย่ำผักกาดที่เขาหาบขึ้นมาใส่เสียมนี้ พร้อมทั้งมีคนโรยเกลือเม็ดใหญ่ๆลงไปด้วย (ต้องย่ำ ต้องเหยียบ อัดให้แน่นๆ เพราะอะไร ผมไม่บอกนะครับ) ถ้าไปเที่ยวเจ็ดเสมียนตลาดนัดโบราณละก้อไปถาม คุณนิตยา คุณตึ๊ง หรือ คุณกัลยาณี เจ้าของผู้จัดการ ผักกาดแปรรูป ตราชฎา ได้เลยครับ (บอกว่า เฮียเก้ว อดีตคนดังเจ็ดเสมียน ให้มาถาม ก็แล้วกันนะครับ แหะ แหะ)

    อี๊น้อยให้ค่าแรงผมเฉพาะที่ผมทำงานตอนเย็นๆ เย็นละ 5 บาท พอผมไปทำงานให้อี๊น้อยไม่กี่วัน ผมก็ได้เงินไปซื้อไม้ตีแบดมินตั้นแล้วละครับ เพราะว่าอย่างปานกลางมันอันละ 25 บาทเท่านั้นเอง ถัดจากนั้นมาผมก็รีเทินส์มาในสนามแบดอีกมกลับมาครั้งใหม่นี้ผมตบแหลก แล้วก็หยอดแบบไม่เลี้ยงเลย แต่แล้วก็ยังสู้ไอ้อู๊ด (โอฬาร ลักษิตานนท์)  มันไม่ได้

        แพ้ลูกตบ ลูกหยอด มันรูดเลย  พับผ่าซี !

ยแก้ว ผู้เขียน

                                                                     โปรดติดตาม กำนันโกวิท 2 ที่นี่ที่เดียว

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้224
เมื่อวานนี้226
สัปดาห์นี้1677
เดือนนี้889
ทั้งหมด1344479

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online