เพื่อนที่ไม่ได้พบกันเลย

คุณรัมภา วงศ์ยะรา อยู่ในหมู่ของเพื่อนๆพี่น้องๆ อย่างมีความสุขในเจ็ดเสมียน เมื่อยังเป็นเด็ก

 

    เมื่อวันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ที่ผ่านมานี้ ได้มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเกิดที่เจ็ดเสมียนเหมือนกันกับผม ได้มาเยี่ยมเยือนผมและครอบครัวที่บ้านสวน สุพรรณบุรี         ตั้งแต่ผมได้มาอยู่เป็นการถาวรที่ เลขที่ ๒๒๒ หมู่ ๑ ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ก็มีคนที่รู้จักมักคุ้น เพื่อนฝูงตั้งแต่เด็กๆ คนที่นับถือที่เจ็ดเสมียน มาเยี่ยมเยียนกันเรื่อยๆ

     มีเด็กเจ็ดเสมียนในอดีตกลุ่มหนึ่งซี่งเป็นเพื่อนกัน  ก็มาหาพร้อมกับพาครอบครัวมาด้วย มาพบกันหลายครั้งแล้ว มาแต่ละทีก็คุยก็รับประทานอาหารร่วมกัน อยู่ที่บ้านสวนของผมเป็นเวลานานๆ ในตอนพวกเขาจะกลับถ้าที่สวนตรงกับน่าผลไม้อะไร ผมก็จะให้เพื่อนๆกลุ่มนี้เอากลับไปฝากคนที่บ้านของเขาด้วย

    และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไม่ได้นึกได้ฝันว่าจะมีคนเจ็ดเสมียน เกิดที่เจ็ดเสมียนคนหนึ่งแท้ๆ ที่เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ จะมาเยี่ยมมาพบผมถึงบ้าน หลังจากไม่ได้พบกันมากกว่า ๕๐ ปีแล้ว

   พูดไปแล้วอาจจะไม่มีใครเชื่อ อันนี้เป็นความจริงครับ เราไม่ได้พบตัวกันเลย แต่มีบางครั้งในสมัยก่อนนั้น ผมก็ได้ข่าวของเขาบ้างเล็กน้อย ต่อมาในสมัยที่อายุมากๆกันแล้วนี้ ก็เคยคุยกันทางโทรศัพท์บ้างแต่ไม่มากนัก ที่จะได้พบกันจริงๆนั้นยังไม่เคยได้พบกันเลย

คุณรัมภา (ซ้าย) กับเพื่อนที่เจ็ดเสมียน เมื่อ ๕๐ ปีมาแล้ว

   เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๐ สิงหาคมนี้ คือวันก่อนที่เขาจะมาพบผมนั้น เขาโทรมาก่อน แล้วบอกว่า  “เก้ว ใช่ไหม เรารัมภานะ ”  ผมได้ยินแล้วก็งงๆอยู่ ก็เลยถามว่า “รัมภาไหน”  “ก็รัมภาที่เคยอยู่ที่เจ็ดเสมียน และเป็นเพื่อนเธอนั่นไง”

   ผมจึงนึกออกแล้วก็เลยไต่ถามว่า “ทำไมเธอจึงรู้เบอร์โทรศัพท์ของเราล่ะ”  เขาก็บอกว่า รู้จากเพื่อนคนหนึ่งแล้วเขาก็บอกชื่อเพื่อนคนนั้น

   “ที่โทรมานี้คือว่า พรุ่งนี้ (๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓) พี่โรจน์ แฟนเราเขาจะไปดูที่ของเขาที่ อำเภอเดิมบาง เราได้ข่าวว่าเก้วเดี๋ยวนี้ไปอยู่ที่สามชุก สุพรรณบุรีแล้ว จึงโทรมาถามเส้นทางที่จะไปที่บ้านเธอ แฟนเราเขาว่า ถ้ามีเวลาก็จะพาไปจะแวะมาหา มาพบมาเจอกันสักหน่อย ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว”

    เมื่อผมได้ทราบความประสงค์ของเขาแล้ว จึงได้บอกเส้นทางที่จะมาที่บ้านให้เขาอย่างละเอียด  รำภาบอกว่า "พรุ่งนี้พบกันแล้วค่อยคุยกันนะ" แล้วก็วางหูโทรศัพท์ไป

     วันรุ่งขึ้นคุณรัมภากับสามีของเธอ ที่ชื่อว่าคุณวิโรจน์ ก็แวะมาเยี่ยมผมที่บ้านจริงๆ มาถึงก็บ่ายโมงแล้ว เพราะว่าแกไปดูที่ของแกที่เดิมบางมาก่อน เรามาเห็นกันในครั้งนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก รูปร่างหน้าตาท่าทางก็เหมือนเดิม มีอย่างเดียวก็คือความแก่ ความมีอายุมากขึ้นเข้ามาเยือนเท่านั้น

คุณวิโรจน์และคุณรัมภา ในวัยสูงอายุเมื่อมาเยี่ยมนายแก้ว ที่บ้านสามชุก สุพรรณบุรี (ภาพถ่ายโดยคุณหวาน)

    ผมเชิญให้เขาทั้งคู่ ไปคุยกันที่โรงจอดรถ เพราะอากาศข้างล่างจะเย็นดี และอยู่ใกล้ๆบ่อน้ำซึ่งมีน้ำอยู่เต็ม มีต้นไม้ขึ้นดูเขียวไปหมด สบายตาสบายใจดีกว่าที่จะคุยกันอยู่บนบ้านซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าว

    คุณวิโรจน์สามีของคุณรัมภา เขาก็เป็นคนช่างคุยพอสมควร แกบอกว่า  "รัมภาบอกบ่อยๆว่า อยากจะมาหาเพื่อนที่จังหวัดสุพรรณ เพราะว่าไม่ได้พบกันนานมาแล้ว พอดีวันนี้ไปดูที่ของผมที่อำเภอเดิมบาง เสร็จแล้วขากลับยังมีเวลาอยู่ก็เลยแวะเข้ามา"

     พลางยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วคุณวิโรจน์ก็พูดต่ออีกว่า 
    " ที่ดินของผมที่อำเภอเดิมบางนางบวชนั้น เป็นที่เก่าแก่ของปู่ย่าตายายของผม มีเนื้อที่จำนวน ๔๒ ไร่กับเศษอีกนิดหน่อย  เวลานี้ให้เขาเช่าทำไร่อ้อย มอบให้กำนันประจำพื้นที่นั้นเป็นผู้ดูแล นานๆผมจึงจะมาดูเสียทีหนึ่ง"

    แล้วเราก็คุยกันหลายๆเรื่อง จนกระทั่งได้เวลาแล้ว คุณวิโรจน์และคุณรัมภาจึงได้ลาผมกลับไป ก่อนจะกลับคุณรัมภาบอกว่า ถ้ามีโอกาสจะมาหาอีก เพราะว่ามาไม่ยากเลย แล้วก็หัวเราะ

     ตั้งแต่ผมเอาเรื่องนี้มาคุยให้ฟังนั้น ผมก็ยังไม่ได้บอกเลยว่า คนที่มาหาผม มาเยี่ยมผมถึงบ้านที่สุพรรณนั้นคือใคร เขาก็คือ ลูกสาวคนหนึ่งของกำนันโกวิท วงศ์ยะรา ชื่อว่า รัมภา วงศ์ยะรา เป็นคนเจ็ดเสมียนตั้งแต่เกิด ไงล่ะครับ

 ติดตามผมต่อไปอีกสักตอนนะครับ ผมจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เราคุยกันในวันนั้น..  ( คลิ๊ก)  ชีวิตคล้ายดั่งนิยาย...! ได้เลยครับ

 

เล่าเรื่องนี้โดย นายแก้ว / ภาพเก่าๆถ่ายโดยคุณจำเนียร คุ้มประวัติ แห่งห้องภาพจำเนียรศิลป์ตลาดเจ็ดเสมียน

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้303
เมื่อวานนี้736
สัปดาห์นี้1039
เดือนนี้10286
ทั้งหมด1340170

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online