ต้นก้ามปู (ตายเพราะอะไร)

ต้นจามจุรี(ก้ามปู)ใหญ่ขึ้นอยู่กลางตลาด เกือบตรงหน้าบ้านผู้เขียน

     แล้วก็กลับมาเรื่องต้นก้ามปูใหญ่อีก มีต้นก้ามปูใหญ่ อีก ๑ ต้นซึ่งอยู่ตรงข้ามร้านทำทอง และต้นโพธิ์ใหญ่ๆ อีกหลายต้น  ติดห้อง ตาโหงว ตีมีด ก็มีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง

    ผมกับ โอฬาร ลักษิตานนท์(ไอ้อู๊ด) และ คะนอง คุ้มประวัติ (ไอ้เหม่ง)ไปยิงนกที่ต้นโพธิ์ข้างบ้านตาโหงวตีมีดบ่อยๆ  ไอ้เหม่งโดนแม่มันด่าเละทุกทีที่ไปยิงนกและตกปลา แต่มันก็ชอบหนีแม่มันไปยิงนกและตกปลากับผมบ่อยๆ มือมันขึ้นเสียด้วยซี ห้องตาโหงวตีมีดนี้อยู่ห้องแถวห้องแรกสุด ถ้านับจากทางแม่น้ำขึ้นมา

 

ห้องของตาโหงว ตีมีดอยู่ติดห้องที่รถจอดนั่นนะครับ ห้องชั้นเดียวที่เห็นอยู่ใกล้ๆนี้ เพิ่งจะปลูกขึ้นมาภายหลัง เป็นของป้าฮุ้น บ้านริมน้ำ

 

บ้านป้าฮุ้น ริมน้ำ ห้องสุดท้ายของตลาดแถวเก่า ปัจจุบันนี้ คุณเง็ก ลูกสาวของป้าฮุ้น  เป็นผู้ครอบครองอยู่
(ถ่ายเมื่อ 8 สิงหาคม 51)

   ต้นโพธิ์ใหญ่ที่อยู่ตรงริมแม่น้ำนั้น เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่ทำให้ตรงนั้นร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีนกหลายชนิดมากินลูกโพธิ์เสียงแซ็ดไปหมด ต้นไม้ที่กล่าวถึงนี้ต้นใหญ่มาก ดูจากภาพที่นำมาประกอบนะครับ


ต้นโพธิ์ใหญ่เหลือต้นเดียว ริมแม่น้ำ ที่ตลาดเจ็ดเสมียน ถ่ายเมื่อ 8 สิงหาคม 51



ต้นโพธิ์ต้นเดียวกันนี้ ถ่ายเมื่อ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2519  32 ปี มาแล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้สร้างศาลาประชาคมที่ริมแม่น้ำ


 มาเข้าเรื่องต้นก้ามปูกันดีกว่าครับ สรุปแล้วต้นก้ามปูที่กลางตลาดเจ็ดเสมียนนั้นมีสามต้น แต่น่าเสียดายต้นก้ามปูใหญ่ทั้งสามต้นนี้ ได้ถูกโค่นลงไปหมดแล้ว จำได้อย่างเลือนรางว่า เฉพาะต้นก้ามปูตรงหน้าบ้านผมนั้น ก่อนที่จะถูกโค่นลงไป มันยืนต้นทำท่าจะตายมานานแล้ว ผลสุดท้ายต่อมา มันก็ยืนต้นตายจริงๆ จึงได้ถูกโค่นลงไป 

 

        สาเหตุการตายของมันนั้น เขาว่ากันว่า ที่โคนต้นก้ามปูนี้  มีคนขายน้ำปลาเป็นประจำ ในวันที่มีตลาดนัด ขายอยู่ติดๆ กันกับร้านขายขนมจีนของป้าแจ่มเสียด้วย โดยร้านป้าแจ่มหันหน้ามาทางหน้าบ้านผม และร้านน้ำปลาหันหน้าไปทางสถานีรถไฟ น้ำปลาที่เอามาขายเมื่อก่อนนี้ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ ซึ่งซื้อทั้งขวดไปเลยเหมือนเช่นที่เราซื้อที่ศูนย์การค้า เช่นน้ำปลาทิพรสหรือน้ำปลาอะไรต่างๆ เหล่านี้ 

        แต่สมัยก่อนนี้เขาหาบใส่ปี๊บมาขาย ใครมาซื้อก็ต้องเตรียมขวดมาด้วย แล้วคนขายก็จะตวงใส่ขวดให้ ในขณะที่ตวงใส่ขวดนั้น น้ำปลาก็จะหกไหลลงเรี่ยราดกับพื้นบ้างไม่มากก็น้อย เวลาผ่านมานานๆเข้า น้ำปลาก็จะหกไหลสะสมอยู่ที่โคนต้นก้ามปูต้นนี้เป็นทวีคูณ ความเค็มสะสมมากเข้ามันทนไม่ไหวก็เลยยืนต้นตายเพราะเหตุนี้เอง แต่จะใช่จริงตามนี้หรือไม่ก็ไม่รู้เพราะผมเขียนจากความจำไม่ได้มาจากหลักฐานอะไร

        จะใช่หรือไม่ใช่เพราะถูกความเค็มของน้ำปลา ทำให้ต้นก้ามปูต้นนี้ตายจริงๆแล้วละก้อผมก็จะไม่ว่าและไม่โกรธ แม่ค้าขายน้ำปลาคนนั้นหรอกครับ เพราะผู้ที่หาบน้ำปลามาขายในตลาดนัดเจ็ดเสมียนในตอนนั้น คือ  ซิ้มโบ๊ะ แม่ของ ยู้ฮัว (คุณปรีชา)แซ่โค้ว เพื่อนของผมเองบ้านของเขาอยู่ใกล้ท่าใหญ่ และก็มีท่าน้ำของเขาเอง อยู่เลยท่าใหญ่ลงไปทางไต้ไปอีกนิดหน่อย ต่อมาผมได้ข่าวว่ายู้ฮัวเพื่อนผมคนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยอายุอันไม่มากนัก ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับ เจ๊แอ๊ว ซึ่งเป็นภรรยาของยู้ฮัว มา ณ.ที่นี้ด้วย ถึงอย่างไรบุตรของยู้ฮัว ชื่อนายเพ้ง ก็ดำเนินกิจการน้ำปลาและหัวใช้โป๊แปรรูป ในชื่อของ คู่บุญ เจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้

        เรื่องต้นก้ามปูใหญ่หน้าบ้านผมที่ยืนต้นตายนั้น อีกกระแสหนึ่งบอกว่าเป็นเพราะพวกเด็กๆเจ็ดเสมียนในขณะนั้นซึ่งก็คือรุ่นผมเอง ปัสสาวะรดมันทุกวันต่างหากเล่า คือว่าเมื่อตอนเด็กๆในตอนหัวค่ำ พวกเราทั้งหลายไม่ค่อยชอบอยู่บ้านกัน ชอบที่จะไปชุมนุมกันคุยกันเฮฮากัน ผมเคยได้ยินป้าม่อมเมียน้าเนียร ร้านถ่ายรูปจำเนียรศิลป์ ที่ห้องติดกันกับห้องผมบ่นว่า ไม่รู้มันจะคุย หาหอก อะไรกันนักหนา คุยกันอยู่ได้เป็นวรรคเป็นเวร... 

       พอสักสามทุ่ม - สามทุ่มครึ่งก็เริ่มทยอยกันกลับบ้าน ตอนนั้นทุกบ้านปิดบ้านกันหมดแล้ว (ตลาดเจ็ดเสมียนในสมัยนั้นพอตกค่ำลงก็เงียบฉี่ไม่มีคนแล้ว) หน้าตลาดมีแสงสว่างสลัวๆ บ้านใครบ้านมันเดินกลับบ้านกันมาเป็นแถว อย่างผม นายแก้ว สุวรรณมัจฉา (ไอ้เก้ว )  , อโณทัย ไทยสวัสดิ์ (ไอ้โล ข้าราชการกรมทาง ระดับ 8), สาธร วงษ์วานิช (ไอ้ธร อดีตนายเรือโทแห่งราชนาวี ปัจจุบันค้าขาย และติดต่อกับบริษัทต่างประเทศ ), โอฬาร ลักษิตานนท์ (ไอ้อู๊ด ปัจจุบันย้ายบ้านจากตลาดเจ็ดเสมียนไปอยู่สามแยกบ้านเลือก ลูกสาวเป็นทันตแพทย์),

       ทวี (ไอ้วี น้องเจ๊กวย พี่ชายของคุณยุพา ทำผักกาด ได้ข่าวว่าไปอยู่ที่ระยองกับน้องชายคือไอ้มาก, ฝู (ลืมชื่อจริงของมันไปแล้ว พ่อมันเป็นจ่าตำรวจ),  สมบูรณ์ สุรพลพินิจ(ไอ้บูน ขายต้นไม้อยู่เมืองกาญจน์ อดีตเกือบได้เป็นทีมชาติ โบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย),ประสาน สุรพลพินิจ (พี่ชายไอ้บูน ปัจจุบันทำไร่อยู่ อ.สามร้อยยอด)  สุรพงษ์  แววทอง (ไอ้โห้  เจ้าของกิจการ อู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ชื่อว่า พงษ์ไพโรจน์ ตั้งอยู่ที่ริมถนนเพชรเกษม ในตัวจังหวัดราชบุรี) และอีกหลายคน       

     พอพวกเราจะแยกย้ายกันเข้าบ้านเดินผ่านต้นก้ามปูใหญ่ต้นนี้ ไม่รู้เป็นอะไร (หรือเพราะว่าความเคยชินก่อนจะเข้าบ้านต้องเยี่ยวเสียก่อน)ปวดเยี่ยวขึ้นมาทันที ก็เลยยืนเยี่ยวรดโคนต้นก้ามปูต้นนี้แทบทุกคืนที่เดินผ่าน น้ำเยี่ยวไหลนอง กระเซ็นเลอะโคนต้นไปหมด

        รุ่งเช้าในวันที่มีตลาดนัดป้าแจ่ม แม่ไอ้มูลมาขายขนมจีน ซิ้มโบ๊ะ แม่ไอ้ยู้ฮัว มาขายน้ำปลาตรงโคนต้นก้ามปูต้นนี้ที่เคยขายเป็นประจำ ถึงกับเอามืออุดจมูกแน่นแล้วบ่นพึมพัมว่า ไอ้หมาตัวไหนวะ มันเที่ยวได้มาเยี่ยวรดตรงโคนต้นไม้นี้แฉะไปหมดเลย เหม็นตายห่า..!

        เมื่อเป็นดังนี้แล้วผมก็เลยตัดสินไม่ได้ว่า ต้นก้ามปูต้นนี้ยืนต้นตายเพราะอะไรกันแน่มี ๒ อย่างให้ท่านผู้อ่านได้เลือก น้ำปลา หรือน้ำเยี่ยวของเด็กตลาดเจ็ดเสมียน แต่ที่แน่ๆโค่นลงไปหมดทั้ง 3 ต้นแล้ว แต่คิดไปแล้วอาจจะไม่ใช่ทั้งสองกรณีนี้ก็ได้ อาจจะเป็นเพราะอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจึงได้ยืนเหี่ยวเฉาใบแห้งตายไป  ยังไงก็อย่าคิดมากไปเลยนะครับมันตายไปแล้ว..!

  เขียนโดย นายแก้ว                                                                                             

      โปรดติดตามเรื่องต่อไป คนที่เจ็ดเสมียน ใครถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ ๑

ในเร็วๆนี้ ที่นี่ที่เดียว

 

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้230
เมื่อวานนี้226
สัปดาห์นี้1683
เดือนนี้895
ทั้งหมด1344485

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online