เด็กตลาดกับไม้ซาง

 

เมื่อไม่นานมานี้มีหนังขายยามาฉายหนังที่หน้าตลาดเจ็ดเสมียน ในคืนวันนั้นเขาเสนอเรื่องทาร์ซานกับเจน พวกผมเด็กตลาดเจ็ดเสมียนก็ได้ดูกันด้วยความสนุกสนาน นั่นเป็นครั้งแรกที่หนังขายยามาฉายเรื่องของทาร์ซาน

 

 

     ต่อมาก็มีหนังขายยาและหนังอื่นๆ เอาหนังเรื่องเกี่ยวกับทาร์ซานมาฉายอีกหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ที่หน้าตลาดของเราก็มีหนังเรื่องทาร์ซานกับเจนผจญภัย มาฉายอีก ทำให้พวกเราคุยกันเรื่องทาร์ซานบ่อยๆอย่างไม่รู้สึกเบื่อ เหมือนกับว่าพวกเราคล้อยตามหนังเรื่องนี้ไปเสียแล้ว หนังทาร์ซานในสมัยนั้นมี  จอห์นนี่ ไวส์สมุลเลอร์ (Johnny Weissmuller)  แสดงเป็นทาร์ซาน สำหรับพระเอกทาร์ซานผู้นี้ ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๗

     ทาร์ซาน(ในหนัง) ผู้นี้เก่งกาจโหนเถาวัลย์พร้อมด้วยเสียงโห่ สู้กับบรรดาสัตว์ร้ายต่างๆด้วยมือเปล่าและมีดเพียงด้ามเดียว ในหนังนั้นยังมีพวกคนป่าอีกที่ทาร์ซานต้องต่อสู้ด้วย จึงทำให้ผู้ที่ได้ดูรู้สึกสนุกสนานและคล้อยตามไปด้วย

    พวกผมมาสดุดใจตรงคนป่าหลายๆเผ่านั้น (ในหนัง) แต่ละคนถือไม้ซางเป็นอาวุธ และสามารถใช้ไม้ซางอย่างคล่องแคล่ว เป่าไปที่เป้าหมายได้แม่นยำดุจดังจับวาง ภาพต่างๆในหนังนี้เองทำให้ผมกับไอ้ธรอยากจะมีไม่ซางมาเป่าเล่นกันบ้าง   

    ในตอนเป็นเด็กๆนั้นพวกผมเป็นเด็กบ้านนอก ไม่ว่าจะได้เห็นอะไรที่ใหม่ๆแปลกๆก็ขวนขวายนำมาเล่นตามเสมอ อย่างเช่นเรื่องไม้ซางนี้เป็นต้น ซึ่งจริงๆแล้วเป็นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง นี่ยังโชคดีที่ในตอนที่พวกผมเล่นเป่าไม้ซางกันนั้นไม่ได้มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นเลย ถึงกระนั้นผมก็จะเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เกี่ยวกับไม้ซางนี้นะครับ

   ทีแรกด้วยความอยากเล่น ก็ไปหักเอาก้านมะละกอก้านที่ตรงๆและยาวพอสมควร มาตัดหัวท้าย แล้วเอาไม้เล็กๆมาเหลาทำลูกดอกก็พอใช้ได้อยู่ ลูกดอกที่ออกจากปากกระบอกก้านมะละกอนั้น ก็วิ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายดี โดยมากเรามักจะไปซ้อมเป่าไม้ซางก้านมะละกอกันนี้ที่หลังโบสถ์ โดยเอากำแพงโบสถ์เป็นที่แขวนลูกมะละกอดิบ พวกเราก็เป่าแข่งความแม่นยำกันเป็นที่สนุกสนาน

    ในวันหนึ่งจากนั้นไม่นานนัก ที่ตลาดนัดเจ็ดเสมียนก็มีพ่อค้าหัวไส นำเอาไม้ซางจริงๆ มาขาย วันนั้นในตอนเช้า ไอ้ธรเพื่อนของผมมาตะโกนเรียกผมเสียงลั่นที่หน้าบ้าน (ห้องแถว) ผมโผล่มาดูผมถามว่า มึงจะไปไหนกันวะมาเรียกแต่เช้าเชียว มึงอยากจะเดินที่ตลาดนัดหรือมึงอยากจะกินขนมจีน ของป้าแจ่มแม่ไอ้มูลมึงก็ไปกินก่อนเลย อีกสักพักกูจะตามไป ผมว่า ไอ้ธรสั่นหน้า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก มันว่า

        “  มีคนมาขายไม้ซางกองเบ้อเร่อ ที่ตรงศาลตาผ้าขาวหน้าโบสถ์แน่ะ มึงกับกูควรไปดูกันหน่อยนะ ไปเดี๋ยวนี้เลยถ้าไปช้ากูกลัวมันจะหมดเสียก่อน  กูเห็นพวกไอ้โห้ ไอ้อู๊ด ไอ้บูน ไอ้วี มันกำลังเลือกอยู่ และมีเด็กตลาดนอกและเด็กบ้านในอีกกลุ่มใหญ่มุงกันเต็มไปหมด ”

         ไอ้ธรพูดเร่งเร้าผม กลัวไปไม่ทันได้ซื้อของ ทำให้รู้ว่ามันอยากจะได้จริงๆ ผมได้ยินไอ้ธรมันบอกอย่างนั้นก็หูผึ่งขึ้นมาทันที เพราะว่าผมก็อยากได้ไม้ซางแท้ๆ มานานแล้วเหมือนไอ้ธรเช่นเดียวกัน พวกผมเป่าลูกดอกจากก้านมะละกอ จนยางมะละกอมันกัดปากบวมตุ่ย ปากบานเป็นดอกลำโพงกันแทบทุกคนมาตั้งนาน เมื่อได้รู้ข่าวจากไอ้ธรแล้ว ดังนั้นผมจึงผลุนผลันเดินไปที่หน้าโบสถ์ ตรงศาลตาผ้าขาวกับไอ้ธรในทันที

      เมื่อมาถึงเห็นเด็กๆรุ่นผมหลายคนมุงดู และบางคนก็หยิบไม้กลมๆยาวๆ มีลวดลายดำๆขึ้นมาดูและลองส่องที่ลำกล้องอยู่ ผมกับไอ้ธรแทรกเข้าไปข้างหน้า พวกไอ้อู๊ดไอ้วีไม่อยู่ตรงนั้นมันคงซื้อกันได้เรียบร้อยไปแล้ว  ผมมองดูแล้วก็หยิบไม้กลมๆเล็กๆขึ้นมาอันหนึ่ง มาดูอย่างใกล้ชิดไอ้ธรก็ทำแบบผมเหมือนกัน

     ที่แท้มันก็เป็นไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ เนื้อบางๆชนิดหนึ่งคล้ายต้นอ้อ ตรงกลางมีรู เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร มีช่วงลำปล้องยาวเป็นพิเศษประมาณ  .๘๐-๑.๐๐ เซนติเมตร (ประมาณ ๑ เมตร) ใช้ทำเป็นลำกล้องเป่าลูกดอกหรือลูกดินเหนียวปั้นกลมๆก็ได้

    ที่ลำไม้ซางนั้นเขาเอาเหล็กเผาไฟให้ร้อนดีแล้วก็เอามาขีดๆ บนลำกล้องไม้ซางให้เป็นเส้นดำๆ ออกลวดลายก็สวยงามดีอยู่  ดูแปลกตาดี ราคาขายในตอนนั้นแล้วแต่สั้นยาว ราคาไม่เท่ากัน อันละเกือบ ๑ บาท ถึง ๒ บาท 
    ผมกับไอ้ธรเลือกได้คนละอัน จ่ายสตางค์เขาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกระหยิ่มยิ้มย่องกลับไปบ้านกันก่อนเพื่อเอาไม้ซางที่ซื้อมาใหม่นี้ไปเก็บไว้ แต่ไอ้ธรมันยังไม่กลับไปบ้านเลยทีเดียว มันเอาไม้ซางฝากไว้ที่บ้านผมก่อน  แล้วพากันเดินไปหา ไอ้หร่ง (นายณรงค์ แซ่ภู่ ปัจจุบันนี้ทำหน้าที่เป็นจราจรที่ตลาดเจ็ดเสมียน) ลูกป้าใบที่บ้านมัน

     ซึ่งอยู่ริมทางรถไฟไปทางไต้ เลยบ้านลุงทั้ง เตี่ยของไอ้ตี๋ (เทียมชัย) ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปหน่อยหนึ่ง ไอ้หร่งมันเป็นลูกจีนกวางตุ้งผิวของมันร่างกายของมันจึงขาวแบบคนจีนทั่วไป ผอมสูงแต่แข็งแรง ใบหน้ารูปหล่อพอสมควร

     ส่วนไอ้ตี๋ (เทียมชัย ซาเสียง) นั้นก็เป็นเด็กเจ็ดเสมียนรุ่นเดียวกับพวกผม เป็นน้องชายของเฮียธง (ธงชัย ซาเสียง) ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับเฮียงั้ง เฮียเล็กไทยเจริญ และเฮียเคี้ยงลูกชายเถ้าแก่เตี่ยเยี้ยนขายกาแฟ

     เด็กเจ็ดเสมียนรุ่นพี่ไอ้ตี๋นี้เด็กเจ็ดเสมียนรุ่นใหญ่ ส่วนตัวไอ้ตี๋เองนั้นมันชอบคุยโวโอ้อวด โฉ่งฉ่างไปตามประสาของมัน มันจะรู้หมดเห็นหมดในเรื่องใดๆก่อนใครๆ แต่เพื่อนทุกคนก็รักมันไม่มีใครเกลียดมันหรอกครับ

     (เมื่อ ๗ เมษายน ๒๕๕๐ เคยเจอกันครั้งหนึ่งที่ในตลาดเจ็ดเสมียน ใส่แก้วแหวนเงินทองเต็มตัว ท่านบอกว่าอยู่แถวกำแพงแสน ไม่ได้ทำอะไรอยู่กับเมียๆเป็นคนรวย ท่านก็โฉ่งฉ่างตามสไตร์ของท่านตามเคย)

   ที่ผมกับไอ้ธรมาบ้านไอ้หร่งนี้ก็เพราะว่าบ้านมันเป็นสวน มีต้นมะม่วงมะพร้าวที่ปลูกไว้เต็มไปหมด ไอ้หร่งมันอยู่บ้านพอดีมันถามผมว่า มาทำไมกันแต่เช้าเชียว ผมกับไอ้ธรบอกว่า มาขอก้านมะพร้าว (ใบมะพร้าวที่เขาเหลาเอาแต่ก้านไปทำไม้กวาด) สักหน่อย

     “พวกมึงจะเอาไปทำอะไรกันวะ” ไอ้หร่งมันถามด้วยความสงสัย ไอ้ธรบอกว่า  “จะเอาไปทำก้านลูกดอก ต้องเอาก้านมะพร้าวที่ใหญ่และสดๆจึงจะมีน้ำหนักดี ถ้าไปหักเอาก้านไม้กวาดมาทำนั้น ก้านมันแห้งแล้ว มันเบาเกินไป” ไอ้หร่งพยักหน้าหงึกๆ แล้วบอกว่า “ก็เอาซี พวกมึงจะเอาเท่าไรกูจะปีนขึ้นตัดให้เลย”

ณรงค์ แซ่ภู่ (ปัจจุบันนี้ยังอยู่ เป็นรปภ.ตลาดเจ็ดเสมียน)

ผมกับไอ้ธรบอกจำนวนมันแล้วมันก็ปีนขึ้นต้นมะพร้าวตัดทางมะพร้าวหล่นลงมาให้ ๑ ทาง.....

โปรดติดตาม ซ้อมเป่าไม้ซางที่ศาลาวัด เป็นตอนต่อไป

                                                      ษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษ

บทความล่าสุด

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้427
เมื่อวานนี้549
สัปดาห์นี้427
เดือนนี้13345
ทั้งหมด1343229

ผู้เยี่ยมชมในขณะนี้

1
Online