นิราศหัวหินของนายหิรัญ
เรื่องราวเก่าๆของชาวเจ็ดเสมียน
นิราศหัวหินของนายหิรัญ
เมื่อ นายหิรัญ สุวรรณมัจฉา ได้ลาออกจากการเป็นครู ที่โรงเรียนวัดเจ็ดเสมียนแล้วและได้ถูกชวนให้ไปทำงานที่โรงสี โดยมีเพื่อนของเขาอีกหลายคน สนับสนุนให้ไปทำงานที่โรงสีไฟเจ็ดเสมียนด้วยกัน และนายหิรัญก็กำลังหางานใหม่ทำและเห็นว่าอยู่ใกล้ๆ บ้านดีก็เลยตกลงทำงาน ที่โรงสีนี้แต่ก็ทำได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น ก็เบื่อ เพราะว่าไม่ค่อยมีงานอะไรให้ทำ โดยในหน้าที่ของนายหิรัญนั้น เป็นเสมียนคอยจด และคิดบัญชีต่างๆ ไม่เหมือนกับเมื่อตอนเป็นครูสอนเด็กๆซึ่งยุ่งทั้งวัน ก็เลยเหงา และคิดเบื่องานที่โรงสีนี้ ในขณะที่คิดเบื่องานอยู่นี้ ก็มีเจ้าของโรงเลื่อย ซึ่งแต่ก่อนนี้โรงเลื่อยนี้ก็ อยู่ติดกับโรงสีไฟเจ็ดเสมียนที่นายหิรัญ ทำงานอยู่นี่เอง แต่ต่อมาได้ย้ายจากที่ตรงนี้ไปสร้างโรงเลื่อยขึ้นใหม่ที่ ในอำเภอหัวหิน ซึ่งในขณะนั้นที่หัวหินยังไม่เจริญเท่าไรนัก ยังมีไม้ซุงจากทางป่าชักลากเข้ามาที่โรงเลื่อย อยู่อย่างสม่ำเสมอ
สงกรานต์บ้านเราในอดีต ๓
สาวเจ็ดเสมียนรุ่นพี่ของผู้เขียนมาทำบุญที่ศาลาเสร็จแล้วลงมาถ่ายรูปกันที่ ริมน้ำใกล้ๆท่าวัด
สงกรานต์บ้านเราในอดีต ๒
ในตอนเย็นของวันนี้จะมีการรดน้ำ ดำหัวให้ คนเฒ่าคนแก่และคนที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันดี ที่อยู่ในตำบลเจ็ดเสมียนแห่งนี้ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วย ดังที่นายจำเนียรได้ประกาศไว้ตั้งแต่ตอนเช้า ที่มีการทำบุญที่วัดแล้ว
สงกรานต์บ้านเราในอดีต ๑
ซุ้มประตูวัดเจ็ดเสมียน ในปัจจุบันนี้
เรื่อง สงกรานต์บ้านเราในอดีต (คือที่เจ็ดเสมียน) นี้ ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ยาวสักหน่อย หลายตอนจบ แต่ก็ได้จับความตั้งแต่ก่อนจะเริ่มสงกรานต์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันแห่ดอกไม้ซึ่งห่างจากวันสงกรานต์วันแรกประมาณ ๗ วันซึ่งจะเป็นตอนจบของเรื่องนี้ ในระยะเวลานั้นได้มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น และผู้เล่าก็ได้สอดแทรกเหตุการณ์เก่าๆของเด็กตลาดเจ็ดเสมียนลงไว้ด้วย เรื่องนี้จึงยาวพอสมควร
เฮียแก่เล็ก และงานหาดทราย ๒ (ไอ้แอด)
เรื่องราวของชาวเจ็ดเสมียน
เฮียแก่เล็กและงานหาดทรายโพธาราม ๒
ใกล้ ๖ โมงเย็นแล้ว พวกเราก็ต้องหาข้าวเย็นกินกันก่อน จะไปกินกันที่ในงานเลย หรือหากินกันตามร้านค้าตึกแถวในตลาดนี้ ตอนนี้เลยแยกกันเป็น สองพวก พวกไอ้อู๊ด กับไอ้โห้และน้องมัน อยากไปกินข้าวแกงกันในบริเวณงานเลยทีเดียว เสร็จแล้วจะได้เดินดูอะไรต่อไป ส่วนพวกผมนั้น อยากจะไปกินในตลาด เพราะว่าได้ปรึกษากันแล้วว่าจะไปดูหนังที่วิก "ครูทวี" เสียสักรอบหนึ่งก่อน สักประมาณ ๓ ทุ่มหนังที่วิกครูทวีเลิกแล้ว ก็พอดี ที่ในหาดทรายมีคนกำลังมากพอดี
ส่วนในตอนหัวค่ำนั้นคนคงยังไม่มากเท่าไร พวกผมชวนพวกไอ้โห้แล้ว ว่าให้ไปดูหนังที่วิกครูทวีด้วยกัน ในรอบ ๑ ทุ่มเสียก่อน มันก็ไม่ยอมไปกัน พวกมันบอกว่าให้พวกผมที่อยากไปดูหนังไปกันก็แล้วกัน แล้วพอสักสามทุ่มค่อยไปเจอกันที่หน้าสนามมวย ตรงที่เขาขายบัตรผ่านประตู จริงๆแล้วพวกผมไม่อยากจะทิ้งกันหรอก