ใต้ถุนศาลาวัดเจ็ดเสมียนในอดีต
ศาลาใหญ่หรือศาลาที่ทำพิธีต่างๆของวัดเจ็ดเสมียน ในสมัยก่อนนั้นก็คือศาลาหลังนี้เอง ต่อมามีการซ่อมแซมต่อเติมหลายครั้งหลายหน ตัวศาลาปรับปรุงทั้งภายในและภายนอก ทางด้านนอกรอบๆนั้น ด้านหน้ามีการสร้างมุข มีบันใดสองข้าง ด้านหลังสร้างเมรุเผาศพติดกับศาลาเพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายศพเข้าเตาเผา ปัจจุบันมีการสร้างสิ่งต่างๆข้างศาลานี้อีกมาก..
ก้าวแรกที่ผมกับไอ้ธรมุดเข้ามาที่ ใต้ถุนศาลานี้ ก็มองเห็นเหยื่อเสียแล้ว วิ่งกันให้เกรียวไปหมด ก็จิ้งจกนะซี ไอ้ธรมันบอกผมว่า เตรียมตัวกันได้แล้วโว้ยทำไมมันชุมอย่างนี้วะ ผมบอกว่ามันเป็นสัตว์ที่ชอบแอบชอบอยู่ในที่มืด เหมือนๆกับสัตว์อีกหลายๆชนิด รวมทั้งพวกตุ๊กแกด้วย นี่นะเราอาจจะเจอตุ๊กแกบ้างก็ได้ ถ้าเจอก็ดีนะซี ไอ้ธรว่า
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ๓
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฏไทย ( ป.ม)
เรื่องราวเก่าๆของชาวตลาดเจ็ดเสมียน
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ๓
เมื่อไม่ได้ทำงานที่โรงงานนั้นแล้ว คุณอารีย์ก็พยายามหางานทำบ้าง กลับไปอยู่บ้านที่เจ็ดเสมียนบ้าง ในปีนั้นตรงกับปีพ.ศ. ๒๕๑๒ กลางปี อยู่ๆคุณอารีย์ก็มาบอกผมว่า ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ใกล้ท้องสนามหลวงเขาเปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการในระดับชั้นจัตวา
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ๒
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ๒
นั่นเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่นายหิรัญบิดาของคุณอารีย์ได้บันทึกไว้ เมื่อครั้งที่คุณอารีย์ยังเป็นเด็กๆ เนื่องจากในขณะนั้น ครอบครัวของเรา ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ย้ายมาจากโพธาราม หรือตั้งแต่พวกผมยังไม่เกิด ยังไม่มีบ้านอยู่ และยังไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน อาศัยเช่าเขามาเรื่อยๆ หลายครั้งวนเวียนอยู่ในเขตเจ็ดเสมียนนั่นเอง แม้แต่กระทั้งคุณปราณี น้องสาวคนเล็กสุดของผม ก็เกิดที่บ้านเช่าหลังตลาดเจ็ดเสมียนแถวเก่า ในตอนนั้นก็ยังไม่มีบ้านตัวเองอยู่เลย
อารีย์ สุวรรณมัจฉา ๑
เด็กตลาดกับไม้ซาง
เมื่อไม่นานมานี้มีหนังขายยามาฉายหนังที่หน้าตลาดเจ็ดเสมียน ในคืนวันนั้นเขาเสนอเรื่องทาร์ซานกับเจน พวกผมเด็กตลาดเจ็ดเสมียนก็ได้ดูกันด้วยความสนุกสนาน นั่นเป็นครั้งแรกที่หนังขายยามาฉายเรื่องของทาร์ซาน